รบ.ญี่ปุ่นระงับแผนติดตั้งระบบสกัดนุกร่วมกับสหรัฐฯ

เอเอฟพี - รัฐบาลกลาง-ซ้ายของญี่ปุ่น ประกาศ เลิกล้มการจัดสรรทุนสำหรับการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธร่วมกับสหรัฐฯอออกไปก่อน หลังจากเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้ 3 เดือน ซึ่งถูกมองว่าเป็นพยายามลดท่าทีแบบสายเหยี่ยวจากรัฐบาลชุดก่อน ที่กุมอำนาจมาแบบแทบจะไม่เว้นระยะมานานเกือบ 50 ปี

คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นอนุมัติแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมประจำปี 2010/11 ซึ่งระบุว่าจะเลื่อนการติดตั้งระบบสกัดขีปนาวุธภาคพื้นดินสู่อากาศชุดใหม่ (PAC-3) ออกไปจนกว่าจะถึงเดือนเมษายน 2011 นอกจากนี้ รัฐบาลของนายกรัฐมนตรียูกิโอะ ฮาโตยามะยังเลื่อนการพิจารณาแนวทางสำหรับนโยบายกลาโหมสำคัญๆ ไปอีกหนึ่งปีด้วย ทั้งนี้ เพื่อใช้เวลาทบทวนประเด็นสำคัญๆ ด้านความมั่งคงของประเทศเสียก่อน หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลครั้งประวัติศาสตร์

โทชิมิ คิตาซาวะ รัฐมนตรีกลาโหม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จะรอให้มีประกาศนโยบายใหม่ออกมาเสียก่อน ถึงจะดำเนินการเรื่องติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธดังกล่าว

เท่าที่ผ่านมา พรรคเดโมเครติกปาร์ตี้ออฟเจแปน(ดีพีเจ) ของฮาโตยามะ และพรรคร่วมรัฐบาลหัวเอียงซ้าย ได้ส่งสัญญาณว่าจะเปลี่ยนนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนที่ร่วมภารกิจเพื่อมนุษยนธรรมกับชาติตะวันตก ซึ่งถูกมองว่าเป้นสายเหยี่ยวเรื่องการทหารมากกว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของฮาโตยามะ ได้ยกเลิกภารกิจเติมเชื้อเพิลงในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเป็นภารกิจที่สนับสนุนสงครามสหรัฐฯในอัฟกนิสถาน นอกจากนั้นยังประกาศว่าจะทบทวนข้อตกเมื่อปี 2006 เรื่องการโยกย้ายฐานทัพสหรัฐฯใบนเกาะโอกินาวะ ด้วย

สหรัฐฯ เป็นพันธมิตรสำคัญองญี่ปุ่นตั้งแต่หลังสงครามโลก และได้ร่วมมือกันพัฒนาระบบสกัดกั้นขีปนาวุธที่มีฐานทั้งบนบกและในทะเล เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะจากรัฐบาลคอมมิวนิวนิสต์เกาหลีเหนือ

ทาเกฮิโกะ ยามาโมโต ศาสตรจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยวาเซดะ กล่าวว่า การหยุดยั้งการติดตั้ง ทำให้เกิดคำถามว่าญี่ปุ่นจะจัดการเรื่องความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เช่น ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ เป็นต้น เขายังให้ความเห็นเสริมว่า รัฐบาลญี่ปุ่นควรจะยกเลิกการชลอการติดตั้งระบบขีปนาวุธดังกล่าวภายในปีถัดไปด้วย เพราะว่าไม่มีทางเลือกไม่กี่ทาง นอกจากการติดตั้งระบบสกัดขีปนาวุธนี้

ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ได้ร้องของบประมาณ 4.7 ล้านล้านเยน(52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)ในปีงบประมาณ2011/12 และวางแผนว่าจะติดตึ้งระบบสกัดขีปนาวุธแพ็ค-3ที่ฐานทัพภายในประเทศภายใน 5 ปีข้างหน้า