เอเอฟพี - ลูกชายของจอมเผด็จการเฟอร์ดินานด์ มาร์กอสประกาศความตั้งใจจะขึ้นเป็นเป็นประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ให้ได้ พร้อมยืนกรานว่าครอบครัวของเขาไม่มีอะไรที่น่าละอาย
เฟอร์ดินานด์ มากอส จูเนียร์ วัย 52 ปี กล่าวว่า เขาไม่เคยคิดว่าชื่อของเขา ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับพ่อ จะเป็นต้นเหตุแห่งความหายนะ แต่กลับมองว่าเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่งที่จะขับดันให้เขาก้าวขึ้นสู่เวทีระดับชาติมากกว่า
“ผมอยากจะดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งผมจะไปให้ไกลเท่าที่ผมสามารถ ส่วนตำแหน่งสูงสุดต้องเป็นประธานาธิบดี” มาร์กอส จูเนียร์กล่าวในการแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ด้วยน้ำเสียงทุ้มไม่ต่างจากพ่อของเขา
มาร์กอส จูเนียร์ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดอิโลกอส นอร์เต ซึ่งเป็นฐานเสียงของครอบครัวของเขามาตั้งแต่ปี 2007 และจะลงสมัครชิงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาของพรรคฝ่ายค้าน ในการเลือกตั้งปีหน้า
ขณะที่แม่ของเขา นางอีเมลดา มาร์กอส อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งผู้ใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย และอีมี น้องสาว ก็จะลงรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาล่างในปีหน้า เพื่อคงการปกครองจังหวัดอิโลกอส นอร์เตไว้ต่อไป หลังมาร์กอส จูเนียร์ลาออกเพื่อไปสมัครชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิก
ทั้งนี้ มาร์กอส ซีเนียร์เป็นประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ตั้งแต่ปี 1966-1986 ซึ่งปกครองด้วยความเผด็จการ มีการละเมิดสิทธิมนุษย์อย่างมหาศาล ตลอดจนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของผู้คัดค้านต่อต้านหลายพันคน
ครอบครัวมาร์กอสถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินของรัฐบาลไปเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในระหว่างปกครองประเทศ จนทำให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้อดอยากยากจน ซึ่งยังไม่สามารถฟื้นคืนได้
จนกระทั่งในปี 1986 พลังประชาชนก็โค่นล้มมาร์กอสลงจากตำแหน่ง และทำให้ครอบครัวของเขาต้องลี้ภัยไปฮาวาย ที่ซึ่งเขาเสียชีวิตใน 3 ปีต่อมา นางอีเมลดา และลูกๆ จึงได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศได้ ซ้ำยังไม่ถูกตัดสินความผิดใดๆ อีกด้วย
มาร์กอส จูเนียร์ ระบุว่า ครอบครัวของเขาไม่เคยทำสิ่งใดผิด และมรดกของพ่อจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์โปร่งใสด้วยประวัติศาสตร์ได้ในวันหนึ่ง
“สิ่งเดียวที่ผมสืบทอดมาจากพ่อแม่คือชื่อที่ดี สิ่งอื่นใดนอกเหนือจากนั้นถูกพรากไปหมดแล้ว” เขากล่าว