ผลวิจัยชี้ ไม่จำเป็นต้องแยกคู่แฝด ผลการเรียนเด็กถึงจะดี

เอเอฟพี - ผลการศึกษาในเนเธอร์แลนด์เผยว่า ไม่ว่าเด็กแฝดจะแยกจากกันระหว่างไปโรงเรียนหรือไม่ ก็ไม่มีผลต่อผลการเรียนของพวกเขา หลังจากประเด็นดังล่าวเป็นที่ถกเถียงมานานสำหรับพ่อแม่ที่มีลูกแฝด

ผลการศึกษาชิ้นนี้ตีพิมพ์ลงในวารสารเอพพิเดมีโอโลจีแอนด์คอมมิวนิตี้เฮลท์ โดยอ้างอิงจากคำวินิจฉัยของนักวิจัยเกี่ยวกับคู่แฝดชาวดัตช์ที่เกิดระหว่างปี 1986-1993 จำนวน 2,003 คู่ ประกอบด้วย แฝดแท้ 839 คู่ และแฝดเทียม 1,164 คู่ ซึ่งนักวิจัยได้ติดตามพฤติกรรมจนพวกเขาอายุ 12 ปี

นักวิจัยพบว่า เมื่อพวกเขาอายุถึง 12 ปี ร้อยละ 72 ยังเรียนอยู่ห้องเรียนเดียวกัน ร้อยละ 19 อยู่คนละห้อง แต่ระดับชั้นเดียวกัน ขณะที่ร้อยละ 9 เคยอยู่ห้องเดียวกันเพียงบางช่วงของการเรียนเท่านั้น

จากนั้น เมื่ออายุครบ 12 ปี เด็กแผดได้เข้าสอบวัดความรู้มาตรฐานของรัฐบาล เช่น ทักษะด้านภาษา และคณิตศาสตร์ ผลปรากฏว่า นักวิจัยไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญของผลคะแนนสอบของเด็กทั้งสามกลุ่ม ทั้งยังยังไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญเรื่องผลคะแนนระหว่างเด็กแฝดแท้ และแฝดเทียม, ระหว่างเด็กผู้ชาย และเด็กผู้หญิงด้วย

นักวิจัยยังได้ศึกษากับกลุ่มเล็กๆ เพื่อตรวจสอบว่า เด็กแฝดที่เรียนห้องเดียวกันมีแนวโน้มว่าจะมีเพื่อนๆ คนเดียวกัน หรือไม่ ผลปรากฏว่าใช่ แต่นักวิจัยชี้ว่า ประเด็นนี้ไม่น่าประหลาดใจเพราะมิตรภาพในโรงเรียนประถมส่วนใหญ่ก็เกิดภายในห้องเรียนนั่นแหละ

ทั้งนี้ ผลวิจัยสรุปว่า การเลือกว่าจะแยกเด็กแฝดออกจากกันหรือไม่นั้นควรขึ้นอยู่ที่ครู พ่อแม่ และตัวเด็กแฝดเอง ตามแต่ลักษณะนิสัยของคู่แฝดแต่ละคู่