เอเอฟพี - สื่ออิตาลีรายงานว่า มัสซิโม ตาร์ตากลียา ออกมาขอโทษ หลังใช้รูปปั้นจำลองฟาดใส่หน้า ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี จนเลือดกบปาก ฟันหัก 2 ซี่ ขณะที่แพทย์เผยผู้นำอิตาลีกินอาหารลำบาก และต้องอยู่ในโรงพยาบาลต่อไปอีกจนถึงพรุ่งนี้(16) ที่สำคัญต้องพักผ่อนอย่างน้อย 10 วัน
สำนักข่าวอันซาของแดนมะกะโรนีรายงานว่า มัสซิโม ตาร์ตากลียา วัย 42 ปี และมีประวัติป่วยโรคจิตมานาน 10 ปี ออกมาขอโทษ หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ (13)เขาใช้รูปปั้นจำลองมหาวิหารแห่งนครมิลาน ฟาดเข้าใส่หน้านายกรัฐมนตรี ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี โดยเขาขอโทษสำหรับการกระทำอย่าง “คนขี้ขลาด หุนหันพลันแล่น ไม่คิดหน้าคิดหลัง” ดังกล่าว
ในจดหมายที่เปิดเผยผ่านทางทนายความของตัวเอง ตาร์ตากลียาระบุว่า ขณะที่ทำลงไปนั้นเขาไม่รู้ตัว และเขาทำไปเองคนเดียวโดยไม่เกี่ยวกับกับเรื่องการเมืองหรือเกี่ยวกับทหาร ทั้งนี้ ตาร์ตากลียา ถูกรวบตัวทันทีหลังจากก่อเหตุไม่คาดฝันดังกล่าว ขณะที่นายกรัฐมนตรีแบร์ลุสโคนี วัย 73 ปี ยังคงอยู่ในโรงพยาบาลเป็นคืนที่สอง เมื่อวันอังคาร(14) และต้องอยู่ต่อไปอีกจนถึงพรุ่งนี้
นายแพทย์อัลแบร์โต ซานกรีโล ระบุว่า โชดีที่ไม่ถูกจุดสำคัญอย่างกะโหลกศีรษะ หรือดวงตา อย่างไรก็ตาม แบร์ลุสโคนีไม่น่าจะออกจากโรงพยาาลได้ก่อนวันพุธ เขาระบุว่า สถานการณ์สงบ แต่อาการของแบร์ลุสโคนีต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งยังเสริมว่า ผู้นำอิตาลียังไม่สามารถไปทำงานได้ตลอด 10 วันนี้ ส่งผลให้แบร์ลุสโคนีต้องยกเลิกการเดินทางไปประชุมโลกร้อนที่กรุงโคเปนเฮเกนตามในสัปดาห์นี้ด้วย
สำหรับอาการโดยทั่วไป แพทย์เผยว่า แบร์ลุสโคนีมีอาการปวดหัวรุนแรง หลังจากเสียเลือดไปราวครึ่งลิตร กินอาหารลำบาก และนอกจากเลือดออกทางปากและจมูกแล้ว เขายังมีบาดแผลแตกลึกใต้ตาซ้าย และฟันหัก 2 ซี่ด้วย
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ขณะที่แบร์ลสุโคนีกำลังเสร็จสิ้นการกล่าวสุทรพจน์กับบรรดาผู้สนับสนุนพรรคของเขาในเมืองมิลาน ทางเหนือของประเทศ ส่งผลให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้นำประเทศของอิตาลี ด้านมัสซิโม ตาตาร์กลียานั้น ถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งหากมีความผิดจริง เขาจะต้องติดคุกอย่างน้อย 5 ปี
