เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการรายวัน - พรรคอนุรักษนิยม ประชาชนยุโรป(อีพีพี) กลุ่มการเมืองใหญ่ที่สุดในรัฐสภายุโรปเมื่อวันจันทร์(14) แสดงความเสียใจต่อเหตุทำร้ายร่างกาย ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ชี้เป็นการกระทำที่ “เหี้ยมโหด”
“เหตุโจมตีนายกรัฐมนตรีอิตาลี ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี เป็นสิ่งที่น่าสลดใจและในนามของพรรคประชาชนยุโรป ผมขอประณามสิ่งนี้ซึ่งเป็นพฤติกรรมรุนแรงทางการเมืองที่ไม่ควรเกิดขึ้นในยุโรป ณ ศตวรรษที่ 21 นี้” วิลเฟรด มาร์เทนส์ ประธานพรรคอีพีพีกล่าวในแถลงการณ์ “พรรคอีพีพีและผม ขอภาวนาให้ แบร์ลุสโคนี หายเป็นปกติโดยเร็ว”
ขณะเดียวกัน เมื่อวันจันทร์(14) คณะแพทย์ได้สั่งให้ แบร์ลุสโคนี ค้างคืนที่โรงพยาบาลเป็นคืนที่ 2 หลังจากถูกชายที่มีประวัติป่วยทางจิตทำร้ายจนฟันหัก 2 ซี่ และจมูกแตก ทั้งนี้หมอบอกว่านายกรัฐมนตรีรายนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการรักษาตัวนานราว 3 สัปดาห์ โดยขณะนี้เขาได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะและยาระงับอาการปวด แต่ก็ยืนยันว่าไม่จำเป็นจะต้องเข้ารับการผ่าตัดแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า แหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโรงพยาบาลคนหนึ่งระบุว่าแบร์ลุสโคนีได้ร้องขอให้ทางโรงพยาบาลเตรียมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งและทันตแพทย์ไว้เป็นกรณีพิเศษด้วย เนื่องจากผู้นำอิตาลีมีความกังวลว่าเขาอาจ “เสียโฉม” จากเหตุการณ์ครั้งนี้
แบร์ลุสโกนี ผู้นำอิตาลีวัย 73 ปี ได้ถูกนำตัวส่งยังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลซาน รัฟฟาเอเล กลางเมืองมิลานทันทีหลังจากที่เขาถูกมัสซิโม ตาร์ตาเกลีย วิศวกรหนุ่มใหญ่วัย 42 ปี จู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันอาทิตย์(13) ด้วยการขว้างรูปปั้นจำลองของ “เปียซซา ดูโอโม” หรือมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน เข้าใส่ที่ใบหน้าอย่างจัง ระหว่างที่แบร์ลุสโคนีกำลังจับมือทักทายกับบรรดากลุ่มผู้สนับสนุนทางการเมืองและสมาชิกพรรค “พีเพิล ออฟ ฟรีดอม” ซึ่งเป็นพรรคการเมืองสายกลาง-ขวา ที่อยู่ภายใต้การนำของเขา
หลังเกิดเหตุเพียงไม่กี่วินาที เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรงเข้าชาร์จตาร์ตาเกลีย ที่เคยมีประวัติการป่วยทางจิตนานถึง 10 ปี ทันที แต่ต้องรีบนำตัวเขาออกจากที่เกิดเหตุเนื่องจากเกรงว่าคนร้ายรายนี้อาจถูกรุมประชาทัณฑ์จากกลุ่มผู้สนับสนุนแบร์ลุสโคนีหลายพันคนในบริเวณดังกล่าวที่กำลังโกรธแค้น ขณะที่บรรดาผู้ช่วยและองครักษ์ของแบร์ลุสโกนีต่างเร่งพาผู้นำอิตาลีที่มีเลือดกบปากและมีบาดแผลหลายแห่งบนใบหน้าส่งโรงพยาบาล
ในเบื้องต้นตำรวจอิตาลีได้ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายต่อตาร์ตาเกลีย แต่มีความเป็นไปได้ที่เขาอาจถูกตั้งข้อหาอื่นเพิ่มในเร็วๆ นี้ โดยเจ้าหน้าที่ยังค้นพบไม้กางเขนและแก๊สน้ำตาในตัวคนร้ายรายนี้ นอกจากนั้น ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ตาร์ตาเกลียจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ประท้วงราวสิบคนที่พากันตะโกนด่าทอผู้นำอิตาลีว่าเป็น “ตัวตลกที่โง่เขลา” และพยายามสร้างความวุ่นวายบริเวณใกล้กับจุดเกิดเหตุลอบทำร้ายครั้งนี้หรือไม่
หลังเกิดเหตุ ประธานาธิบดีจอร์จิโอ นาโปลิตาโน ของอิตาลี ได้กล่าวประณามอย่างรุนแรงต่อเหตุลอบทำร้ายแบร์ลุสโกนีครั้งนี้ พร้อมตำหนิทีมรักษาความปลอดภัยที่ปล่อยให้คนร้ายสามารถเข้าถึงตัวนายกรัฐมนตรีได้อย่างง่ายดาย ขณะที่บรรดานักการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลต่างออกมาประณามเหตุการณ์ครั้งนี้เช่นกัน โดยต่างระบุว่าการกระทำของตาร์ตาเกลียเป็นการทำลายบรรยากาศทางการเมือง และทำให้ประชาธิปไตยในอิตาลีต้องมัวหมอง
ทั้งนี้ แบร์ลุสโคนีซึ่งตกเป็นข่าวอื้อฉาวทางเพศและการคอร์รัปชันอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เคยถูกลอบทำร้ายในลักษณะคล้ายกันนี้มาแล้ว เมื่อครั้งที่เขาถูกเด็กหนุ่มคนหนึ่งใช้ขาตั้งกล้องฟาดที่ศีรษะอย่างรุนแรงจนแตกและต้องเย็บหลายเข็มระหว่างปฏิบัติภารกิจในกรุงโรมเมื่อปี 2004