เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันเมื่อวันอังคาร (1) ตามหลังดอลลาร์ที่อ่อนค่าและตลาดกังวลต่อความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เกี่ยวกับโปรแกรมนิวเคลียร์อิหร่าน ขณะที่ วอลล์สตรีท ปิดบวกอย่างแรง หลังได้แรงฉุดจากตลาดหุ้นทั่วโลกและวิกฤตหนี้สินดูไบที่เริ่มคลี่คลาย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ ปิดที่ 79.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การขยับขึ้นของราคาน้ำมันมีขึ้นตามหลังความตึงเครียดที่ขยายตัวขึ้นระหว่างอิหร่าน และอังกฤษ หลังจากผู้ช่วยระดับสูงของประธานาธิบดีมะห์มูด อะห์มาดิเนจัด บอกว่าชาวผู้ดี 5 คนที่ถูกจับกุมหลังเข้าไปในน่านน้ำเตหะราน จะถูกจัดการอย่างหนักหน่วงหากพบว่ามีความผิดฐานกระทำโดยเจตนา
นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ก็คุกรุ่นขึ้นไปอีก เมื่อ อิหร่าน แสดงความไม่พอใจต่อคู่หูนิวเคลียร์อย่างรัสเซีย ที่ร่วมลงมติเห็นชอบตามทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ ในการประณามอิหร่าน ขณะเดียวกันก็ยืนกรานว่าพวกเขาจริงจังในแผนสร้างโรงงานสกัดแร่ยูเรเนียมเพิ่มอีก 10 แห่ง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร (1) ดีดตัวขึ้นอย่างแรง ตามตลาดหุ้นโลกและยังได้ปัจจัยหนุนจากข้อมุลทางเศรษฐกิจอันสดใส รวมไปถึงความกังวลที่คลี่คลายต่อวิกฤตหนี้สินของดูไบ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 126.66 จุด (1.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,471.50 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 31.21 จุด (1.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,175.81 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 13.22 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,108.85 จุด
ตลาดการเงินโลกทั้ง เอเชีย, และยุโรป แสดงอาการผ่อนคลายความวิตกมากขึ้นเมื่อวันอังคาร(1) ภายหลัง “ดูไบ เวิลด์” แถลงรายละเอียดเป็นครั้งแรกในคืนวันจันทร์ (30 พ.ย.) ว่าตนเองกำลังปรับโครงสร้างซึ่งจะเกี่ยวข้องกับหนี้สินประมาณ 26,000 ล้านดอลลาร์ หรือเกินครึ่งเล็กน้อยของยอดหนี้สินที่มีอยู่ โดยที่หลายกิจการในเครือจะไม่ถูกกระทบกระเทือนแต่อย่างไร
ขณะเดียวกัน การปิดบวกของวอลล์สตรีท ยังได้ปัจจัยเสริมจากข้อมูลทางเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยสถาบันการจัดการอุปทาน ระบุว่าดัชนีภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ขยายตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน แม้จะเป็นการเติบโตในอัตราที่ลดลง จาก 55.7 จุด ในเดือนตุลาคม เหลือ 53.6 จุด ในเดือนพฤศจิกายนก็ตาม
นอกจากนี้ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ก็ขยายตัวขึ้น 9 เดือนติดต่อกันในเดือนตุลาคม โดยก้าวกระโดดจากเดือนกันยายนถึง 3.7 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจาก 1 ปีก่อนถึง 31.8 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ตามข้อมูลสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา