xs
xsm
sm
md
lg

มือปารองเท้าใส่ “บุช” เจอดี ถูกเพื่อนนักข่าวเล่นงานแบบเดียวกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มุนตาเซอร์ อัล-ไซดี ขณะแถลงข่าวในกรุงปารีส ก่อนที่เขาจะถูกผู้ประท้วงรายหนึ่งขว้างรองเท้าใส่
เอเอฟพี - ผู้ประท้วงร้ายหนึ่งซึ่งอ้างตัวว่าเป็นสื่อมวลชนอิรักในวันอังคาร (1) ก่อเหตุขว้างรองเท้าใส่นักข่าวเพื่อนร่วมชาติ ผู้ที่เมื่อ 1 ปีก่อนสร้างชื่อกระฉ่อนโลกจากกรณีปาเกือกใส่ จอร์จ ดับเบิลยู.บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น

มุนตาเซอร์ อัล-ไซดี ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ อยู่ ณ กรุงปารีส เพื่อรณรงค์แคมเปญ “เหยื่อแห่งการรุกรานของสหรัฐฯในอิรัก” ขณะที่ถูกเพื่อนร่วมชาติรายหนึ่งปราศรัยแทรกและพยายามเอาชนะคะคาน พร้อมตะโกนใส่ว่า “นี่ไง รองเท้าอีกคู่สำหรับแก”

ชายรูปร่างกำยำ กล่าวปราศรัยเป็นภาษาอาหรับสำเนียงอิรักสั้นๆ ในช่วงของการถามตอบภายในงานที่จัดโดยศูนย์ต้อนรับผู้สื่อมวลชนต่างชาติ ทั้งนี้ เขาได้ปกป้องนโยบายสหรัฐฯและกล่าวหา ไซดี ว่า “ทำงานให้กับพวกเผด็จการในอิรัก” ก่อนขว้างรองเท้าใส่เขา

รองเท้าพุ่งแรงไปยังศีรษะของ ไซดี แต่เขาสามารถหลบได้ทัน ก่อนมันจะไปกระแทกกับฉากหลังของเวทีโดยไม่ก่อความได้รับบาดเจ็บแก่ผู้ใด

พี่ชายของ ไซดี สามารถคว้าตัวผู้ก่อเหตุและตบหน้าเขาอย่างแรง ขณะที่พยานบอกในเวลาต่อมาว่าชายคนดังกล่าวเป็นชาวอิรักที่กำลังยื่นขอลี้ภัยและรู้เพียงแต่มีชื่อว่า “คายัต” เท่านั้น ก่อนเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดงานและผู้เห็นเหตุการณ์จะแยกพวกเขาออกจากกัน

“ตอนที่ผมใช้วิธีนี้ มันถูกใช้สำหรับผู้รุกราน ผมไม่ได้ใช้มันต่อต้านเพื่อนร่วมชาติ” ไซดี แสดงความข้องใจ “ผมรู้จักผู้รุกรานเสมอและขี้ข้าของพวกเขาไม่สามารถหยุดยั้งผมได้หรอก”

หลังเหตุอันน่าตื่นเต้น การแถลงข่าวก็กลับมาดำเนินไปตามปกติอีกครั้ง และเรื่องที่ ไซดี ถูกถามมากที่สุดคือกรณีที่เขาขว้างรองเท้าใส่ บุช เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมปีก่อน ต่อหน้าคนทั้งโลกและทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ของโลกอาหรับ

ผู้สื่อข่าวชาวชีอะห์วัย 30 ปีรายนี้ ถูกจำคุก 9 เดือน และเดินทางออกจากอิรักหลังจากได้รับอิสรภาพไม่นาน

ณ การปรากฏตัวของเขาในกรุงปารีสครั้งนี้ เพื่อมาร่วมงานที่จัดโดยสมาคมสื่อมวลชนอาหรับ เขากล่าวว่าจะอยู่รักษาตัวในกรุงเจนีวา ประเทสสวิตเซอร์แลนด์ สักระยะ เพื่อรักษาอาการกระเพาะอักเสบ ฟันหัก เจ็บปวดเส้นเอ็นบริเวณหลังเสียก่อน

ไซดี กล่าวต่อว่าหลังการรักษา เขาอยากจะเดินทางกลับไปยังอิรัก หาเงินทุนสนับสนุนแผนรณรงค์ของเขาเพื่อช่วยเหลือ “เหยื่อแห่งการรุกรานของสหรัฐฯในอิรัก” โดยเฉพาะแม่หม้ายและเด็กกำพร้าที่ต้องสูญเสียคนซึ่งเป็นที่รักไปในปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯ

ระหว่างแนะนำ ไซดี ในฐานะแขกรับเชิญของงาน คามาล ทาราเบย์ ประธานสมาคมผู้สื่อข่าวอาหรับท้องถิ่น กล่าวว่าความกล้าหาญของ ไซดี ทำให้เขาเป็น “ฮีโร่ผู้ต่อต้านพวกรุกราน”

กระนั้นก็ดี ขณะที่บางส่วนปรบมือต้อนรับเขา แต่มีผู้สื่อข่าวอาหรับหลายคนแสดงความข้องใจว่า แม้การประท้วงของเขานั้นถูกกฎหมายสำหรับนักเคลื่อนไหว แต่ในฐานะสื่อมวลชนแล้ว เขาควรมีความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้

อย่างไรก็ตาม ไซดี ชี้ว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมยืนยันว่าหากมีโอกาสเขาจะทำแบบเดียวกันนี้กับ บารัค โอบามา ประธานาธิบดรสหรัฐฯ “ไม่ว่าเขาจะมีผิวสี เชื้อชาติและศาสนาใดก็ตาม”
กำลังโหลดความคิดเห็น