เอเอฟพี/เอเจนซี – เศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวได้อย่างอ่อนแรงยิ่งกว่าที่เคยเชื่อกันทีแรก โดยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ที่ผ่านการทบทวนใหม่ล่าสุดระบุว่า อัตราการขยายตัวอยู่ในระดับ 2.8% เท่านั้น กระนั้นก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า แนวโน้มการกระเตื้องขึ้นจะยังต่อเนื่องไปถึงปีหน้า แม้การเติบโตจะยังมีอุปสรรคจากอัตราการว่างงานสูงและปัจจัยอื่นๆ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯแถลงในวันอังคาร(24)ว่า จากการทบทวนปรับตัวเลขล่าสุดพบว่า ในไตรมาส 3 ปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) เติบโตในอัตราเท่ากับปีละ 2.8% ซึ่งต่ำลงจากที่เคยประกาศเบื้องต้นในเดือนที่แล้ว ที่บอกว่าอยู่ในระดับ 3.5% แต่กระนั้นก็ยังคงเป็นการขยายตัวแดนบวกเป็นไตรมาสแรก หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัวอย่างต่อเนื่องมา 4 ไตรมาสด้วยกัน
ดังนั้น ข้อมูลเศรษฐกิจของช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนนี้ จึงยังชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯน่าจะกำลังพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย เพียงแต่มีแรงขับเคลื่อนต่ำกว่าที่เคยคาดกันไว้
ซาล กอติเอรี นักเศรษฐศาสตร์แห่งบีเอ็มโอ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่ารายงานที่ออกมานี้ไม่ได้ทำให้เขาคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจแตกต่างไปจากเดิม และว่า “เรายังคงคิดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวราว 3 %ต่อปีในช่วงไตรมาสที่สี่ และเศรษฐกิจสหรัฐฯ คงขยายตัวได้แค่พอประมาณในปี 2010 ราว 2.5 %”
ส่วน แพทริค โอฮารา นักวิเคราะห์จาก Briefing.com เห็นว่าตัวเลขที่ออกมาน่าผิดหวังเพราะ “แสดงว่าแม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโต แต่ก็อยู่ในระดับต่ำกว่าศักยภาพที่มีอยู่ ซึ่งไม่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี หากนำเอาเรื่องอัตราขยายตัวของการจ้างงานมาพิจารณาด้วย”
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันอังคาร ธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) ก็ได้เผยแพร่รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจอีกชุดหนึ่ง ซึ่งระบุว่าสหรัฐฯ จะเติบโตระหว่าง 2.5-3.5 %ในปี 2010 ส่วนปัญหาการว่างงานนั้นก็ดูเหมือนจะมาถึงจุดสูงสุดแล้ว
บันทึกรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 3-4 ที่ผ่านมาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด(เอฟโอเอ็มซี) ซึ่งเฟดนำออกเผยแพร่คราวนี้ ในส่วนที่เป็นการมองทิศทางเศรษฐกิจนั้น ได้ระบุว่า ผู้เข้าร่วมประชุม “คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป”
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคราวนี้ได้ทำนายอัตราขยายตัวของเศรษฐกิจปี 2010 ดีขึ้นจากการประชุมในเดือนกรกฎาคม ที่ให้ไว้ว่าจะอยูระหว่าง 2.1-3.3 %
ส่วนอัตราการว่างงานซึ่งข้อมูลล่าสุดคือของเดือนตุลาคมระบุว่าอยู่ในระดับ 10.2% อันเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีนั้น เฟดกล่าวในการคาดการณ์ล่าสุดว่า น่าจะปรับลดลงในต้นปี 2010
“ผู้เข้าร่วมประชุมโดยทั่วไปมองว่าอัตราการว่างงานอาจขยับเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในสองสามเดือนสุดท้ายของปี 2009 หลังจากนั้นจะปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในระยะสองสามปีข้างหน้า”
การคาดการณ์ล่าสุดของเฟดมองว่า อัตราการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 9.3-9.7 %ในช่วงปี 2010 และจะยังอยู่ราวๆ 8.2-8.6 %ในปี 2011
ส่วนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2011 นั้นคาดว่าจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจมากขึ้นที่ 3.4-4.5 %
นอกจากนั้น ผู้เข้าร่วมประชุมยังมองว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากวิกฤตที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดนี้ จะต้องใช้เวลาหลายปีทีเดียวในการฟื้นฟู
“ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เห็นว่า คงต้องใช้เวลาราวห้าหรือหกปีสำหรับให้เศรษฐกิจฟื้นคืนตัวอย่างเต็มที่เข้าสู่เส้นทางในระยะยาว ซึ่งอยู่ในสภาพมีอัตราเติบโตของผลผลิตอย่างยั่งยืน และมีอัตราการว่างงานและเงินเฟ้ออันสดอดคล้องเป็นไปตามเป้าหมายของเฟด”
ทว่า มีผู้เข้าประชุมบางรายมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจใช้เวลานานกว่านี้ก็ได้