เอเอฟพี - เกิดเหตุระเบิดโจมตีหลายระลอกทั่วอัฟกานิสถานวันศุกร์(20) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 23 ราย เหตุนองเลือด ณ วันเริ่มต้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยสองของฮามิด คาร์ไซ ซึ่งตอกย้ำถึงเกลียวคลื่นแห่งความไม่สงบของสงครามที่นำโดยสหรัฐฯที่กินเวลานานกว่า 9 ปีแล้ว
เหตุโจมตีในวันศุกร์ ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 35 ราย นับตั้งแต่ คาร์ไซ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งอีก 5 ปีเมื่อวันพฤหัสบดี(19) โดยเขาให้คำมั่นพยายามนำสันติภาพคืนสู่ประเทศและเข้ารับมอบภาระด้านความมั่นคงจากกองกำลังต่างชาติภายในเวลา 5 ปี
มือระเบิดพลีชีพขับมอเตอร์ไซด์ซุกซ่อนระเบิดโจมตีเมืองหลวงของจังหวัดฟาราห์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ คร่าชีวิตพลเรือนไป 15 รายใกล้กับบ้านพักของผู้ว่าราชการจังหวัด
ขณะเดียวกันปฏิบัติการโจมตีด้วยระเบิดข้างทางมีเป้าหมายเล่นงานแม่ทัพรายหนึ่ง ซึ่งรอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงคาบูล อย่างไรก็ตามแรงระเบิดได้สังหารบอดีการ์ดของเขา 5 ราย นอกจากนี้ยังมีเหตุโจมตีลักษณะเดียวกันนี้ทางตะวันออกของเมืองหลวงอัฟกานิสถาน และมีผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย
ปฏิบัติการโจมตีในจังหวัดฟาราห์ ก่อความเสียหายแก่อาคารที่อยู่โดยรอบ ขณะเดียวกันก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 38 คน โดยในจำนวนนั้นหลายสิบคนมีอาการสาหัส โดย คาร์ไซ ออกมาประณามเหตุดังกล่าวว่าเป็น "การโจมตีอย่างทารุณและไม่ควรให้อภัยต่อพลเรือน" แถลงการณ์ของทำเนียบประธานาธิบดีระบุ
ตำรวจบอกว่าในกรุงคาบุล เหตุโจมตีด้วยระเบิดข้างทางมีเป้าหมายที่ขบวนรถของ อับดุล รับ ราโซอุล ซายาฟ แม่ทัพผู้ฝักใฝ่คาร์ไซ อย่างไรก็ตามเขารอดชีวิต แต่บอดีการ์ดของเขา 5 รายถูกสังหาร ทั้งนี้ ซายาฟ สนับสนุน คาร์ไซ ในศุกร์เลือกตั้งอันแปดเปื้อนด้วยความฉ้อฉลของอัฟกานิสถานเมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา
ได้เกิดเหตุโจมตีอัฟกานิสถานแล้ว 4 ครั้ง นับตั้งแต่ คาร์ไซ สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง โดยก่อนหน้านี้ทหารสหรัฐฯ 2 นายและพลเรือนอีก 10 คนต้องมาจบชีวิตลงด้วยเหตุระเบิดสองระลอกเมื่อวันพฤหัสบดี(19)
ความรุนแรงนี้ย้ำถึงความท้าทายที่ คาร์ไซ ต้องเผชิญ แต่หากเขาทำได้ดีก็สร้างความหวังว่าทหารอัฟกันจะเข้ามาแบกรับหน้าที่ดูแลความมั่นคงในเร็ววัน ตามหลังการถอนทหารนาโตและสหรัฐฯ กว่า 100,000 นาย