เอเจนซี - นายกรัฐมนตรีแฮร์มัน ฟาน รอมปุย ได้รับการคัดเลือกจาก 27 ประเทศสมาชิก ให้เข้าดำรงตำแหน่งประธานแห่งหภาพยุโรปเป็นคนแรก(EU) ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เขายังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ
บรรดาผู้นำอียูประชุดสุดยอดในกรุงบรัสเซลส์วันนี้ และประกาศแต่งตั้งผู้นำเบลเยียมให้เป็นประธานอียูคนแรก ขณะที่แคทเทอรีน แอชตัน กรรมธิการการค้าของอียูชาวอังกฤษ ได้รับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของอียู ซึ่งนับเป็นนักการทูตสูงสุด
ตำแหน่งประธานอียูก่อตั้งขึ้นภายใต้สนธิสัญญาลิสบอน ซึ่งวางแนวทางแนวทางการตัดสินใจเพื่อทำให้กลุ่มอียู 27 ชาติมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในการจัดการความสัมพันธ์กับประเทศอื่น เช่น สหรัฐฯ และจีน
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายแสดงความผิดหวังกับการตัดสินใจเลือกประธานอียูคนนี้
ดาเนียล คอห์น เบนดิต หัวหน้าพรรคกรีนในรัฐสภาอียู แสดงความเห็นว่า บรรดาผู้นำอียูยังทำผลงานที่ทำให้สถานบันอียูดูอ่อนแอลงต่อไปอีก ตัวเลือกของพวกเขานั้นไม่น่าสนใจเลย ขณะที่สื่อวิจารณ์ว่า แอชตัน ก็ยังมีประสบการณ์ทางการทูตน้อยมาก
ตำแหน่งประธานอียูถูกคาดหมายให้เป็นผู้นำยกเครื่ององค์กรอียู ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจและการเมืองโลก รวมทั้งคู่แข่งทางการค้าอย่างประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างจีน อินเดีย รัสเซีย และบราซิล
ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษโทนี แบลร์ อาจจะได้เป็นประธานอียูคนแรก แต่หลายฝ่ายแสดงท่าทีคัดค้าน เนื่องจากเขาสนับสนุนสหรัฐทำสงครามในอิรัก
