เอเจนซี - ผู้นำทั่วโลกยกย่องสามัญชนที่มีส่วนช่วยทลายกำแพงเบอร์ลิน พร้อมชี้เหตุการณ์ประวัติศาสตร์เมื่อ 20 ปีก่อนแสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความสามารถรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ทั้งจากภัยก่อการร้ายไปจนถึงภาวะโลกร้อน ขณะที่ไฮไลต์ของงานคือการล้มโดมิโนยักษ์ซึ่งเป็นไปอย่างสวยงามอลังการ
อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงเหล็กของเยอรมันในฐานะเจ้าบ้าน นายกรัฐมนตรี กอร์ดอน บราวน์ แห่งอังกฤษ, ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส, ประธานาธิบดีดมิตรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซียและบรรดาผู้แทนจากชาติสมาชิกสหภาพยุโรป เช่นเดียวกับ ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้รับการต้อนรับจากประชาชนหลายแสนคนที่ฝ่าฝนหลั่งริน รวมตัวกัน ณ บริเวณประตูบรันเดนบวร์ก ร่วมฉลองครบ 20 ปีแห่งการทำลายกำแพงเบอรลิน เปิดทางรวมเยอรมนีเป็นหนึ่งเดียวและยุติสงครามเย็น
“ด้วยความร่วมมือกันเราสามารถทำลายไอรอน เคอร์เทน (เขตแบ่งประเทศคอมมิวนิสต์กับอดีตโซเวียตจากยุโรปตะวันตก) และดิฉันเชื่อมั่นว่าความแห่งร่วมมือนี้จะมอบความแข็งแกร่งแก่เราสำหรับศตวรรษที่ 21” แมร์เคิล กล่าว ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีรายนี้เกิดในดินแดนคอมมิวนิสต์ เยอรมนีตะวันออกและปีนข้ามกำแพงด้วยตนเองในค่ำคืนวันที่ 9 พฤศจิกายน 1989
สภาพอากาศที่เลวร้ายไม่สามารถขัดขวางประชาชนที่มารวมตัวแออัดยัดเยียดกันบริเวณจตุรัสด้านหน้าประตูบรันเดนบวร์ก ซึ่งเวลานี้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเอกภาพของเยอรมัน
ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส กล่าวว่า “ความล่มสลายของกำแพงคือเสียงเรียกร้องสำหรับการต่อสู้กับกำแพงอุปสรรคอันหลากหลายที่ยังคงมีอยู่บนโลกใบนี้ และยังคงสร้างความแตกแยกตามเมือง ภูมิภาคและประเทศต่างๆ” ขณะที่ประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ เรียกร้องให้สร้าง “โลกใหม่ที่ดีกว่า” โลกที่ร่วมกันต่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจ อาชญากรรม ก่อการร้ายและความยากจน
ด้าน ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้ผู้นำทุกประเทศร่วมมือกันเพื่ออิสรภาพที่ก้าวหน้าไกลเกินกว่าขอบเขตปัจจุบัน ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ซึ่งสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการวิดีโอเข้ามาในงาน ระบุว่าเขาได้แรงบันดาลใจจากความกล้าหาญของชาวเยอรมนีตะวันออกซึ่งลุกขึ้นสู่กับระบบการปกครองอันกดขี่ จนนำมาสู่การรวมเป็นอันหนึ่งเดียวกันของเยอรมนี ณ เวลานี้
“คงมีแค่บางส่วนที่มองล่วงหน้าว่า...การรวมเยอรมนีจะนำโดยผู้หญิงคนหนึ่งที่มาจากบรันเดนบวร์ก เช่นเดียวกันจะมีใครบ้างที่คิดว่าพันธมิตรของพวกเขาอย่างสหรัฐฯ จะนำโดยชายคนหนึ่งที่สืบสกุลมาจากแอฟริกา แต่ชะตากรรมมนุษย์คือสิ่งที่มนุษย์ลิขิตเอง”
หลังจากผู้นำประเทศต่างๆกล่าวจบ ก็มาถึงไฮไลต์สำคัญของงาน เมื่อ เลค วาเลซา ผู้ร่วมก่อตั้งสหภาพแรงงาน “โซลิดาริตี” ในโปแลนด์ ได้ผลักโดมิโนตัวแรกของโดมิโนนับพัน ความสูงแต่ละตัว 2.50 เมตร ที่ถูกนำมาวางเรียงตามแนวที่เคยเป็นที่ตั้งของกำแพงเบอร์ลิน เป็นระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ทั้งนี้โดมิโนล้มลงอย่างนุ่มนวล
