เอเอฟพี - องค์กรเอกชนแห่งหนึ่งในอินโดนีเซียซัดเหตุน้ำมันรั่วครั้งใหญ่ จากแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัท ปตท.สผ. ส่งผลกระทบต่ออินโดนีเซีย โดยทำให้ปลาตาย ทั้งยังทำลายอาชีพของประชาชนในหมู่บ้านยากจนตามแนวชายฝั่งทะเลติมอร์
กลุ่มเอ็นจีโอระบุว่า ชาวประมงกว่า 7,000 คน ในจังหวัดอีสต์ นูซา เตงการา ได้รับผลกระทบจากการรั่วไหลของน้ำมันจากแท่นขุดเจาะเวสต์ แอตลาส ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทปตท.สผ.ของไทย ที่ทำให้มีน้ำมันหลายพันบาร์เรลไหลลงสู่ทะเลติมอร์ นับตั้งแต่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา
"หลังน้ำมันเริ่มรั่วไหล รายได้ของชาวประมงลดลงถึง 40% และตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว รายได้ของพวกเขาลดลงถึง 80%" เฟอร์ดี ทาโนนี จากมูลนิธิเวสต์ ติมอร์ แคร์ ที่ให้การสนับสนุนชาวประมงผู้ยากจนทางตะวันออกของอินโดนีเซีย
เขายังเสริมว่า "ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ พวกเขายังสามารถจับปลากระพงแดงได้เกือบ 100 ตัวต่อ 1 คืน แต่เดี๋ยวนี้ กลับยากเหลือเกินที่จะหาปลาเพียงแค่ 20 ตัว"
แท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทพีทีทีอีพี ในออสเตรเลียเกิดเพลิงลุกไหม้ในวันอาทิตย์ (1) ที่ผ่านมา ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังพยายามอุดรอยรั่ว โดยเพลิงได้ลุกไหม้ทั้งดาดฟ้า และหลุมพัฒนา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งไปในทะเลราว 250 กิโลเมตร
ส่วนองค์การด้านสิ่งแวดล้อม ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ ชี้ว่า การรั่วไหลดังกล่าวเป็นหายนภัยทางธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในออสเตรเลีย โดยมีน้ำมันกว่า 400,000 ลิตรรั่วไหลแผ่กระจายกินบริเวณราว 10,000-25,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นภัยต่อชีวิตสัตว์ทะเลทั้งปลาโลมา และเต่าทะเลด้วย