เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วงลงเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์(23) ท่ามกลางแรงเทขายทำกำไรและดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบกับสกุลเงินอื่นๆ ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดลบถ้วนหน้า โดยเฉพาะดาวโจนส์ที่ขยับลงต่ำกว่า 10,000 จุดอีกครั้ง แม้ว่าผลประกอบการบริษัทต่างๆจะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก็ตาม
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 69 เซนต์ ปิดที่ 80.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเมื่อวันพุธ(21) ทะยานไปแตะ 82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2008 ส่วนเบรนต์ลอนดอน ลดลง 59 เซนต์ ปิดที่ 78.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับลดมีขึ้นตามหลังแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุนในวันสุดท้ายของการซื้อขายประจำสัปดาห์ ขณะที่ดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินอื่นๆ หลังจากทำสถิติอ่อนค่าสูงในรอบ 14 เดือนเมื่อเทียบกับยูโรในช่วงกลางสัปดาห์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(23) ร่วงลงอย่างแรง โดยเฉพาะดาวโจนส์ที่ดิ่งต่ำกว่า 10,000จุด จากรายได้อันอ่อนแอของภาคอุตสาหกรรมที่บดบังข่าวดีเกี่ยวกับผลประกอบการอันสดใสของบริษัทต่างๆในกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 109.13 จุด (1.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,972.18 จุด แนสแดค ลดลง 10.82 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,154.47 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 13.31 จุด (1.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,079.60 จุด
ตลาดเปิดตัวในแดนบวก แต่ก็ร่วงสู่แดนลบ แม้มีข้อมูลอันสดใสจากผลประกอบการของบริษัทไมโครซอฟต์ อเมซอนและฮันนีเวลล์ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บอกว่าข่าวเกี่ยวกับผลกำไรที่เกินความคาดหมายของบริษัทเหล่านี้ไม่สามารถช่วยผลักดันตลาดได้ เหตุเพราะมีปัจจัยลบเกี่ยวกับผลกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรม