เอเจนซี – สถานีโทรทัศน์ทางการของอิหร่าน รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดโจมตีกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามอิหร่าน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ในวันอาทิตย์ (18) ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 42 รายจากที่เคยประเมินไว้เบื้องต้นที่ 35 ราย
เพรสทีวี สถานีข่าวภาคภาษาอังกฤษของอิหร่าน รายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน ในเหตุรุนแรงดังกล่าว ซึ่งทางกองกำลังพิทักษ์อิหร่านประกาศจะตอบโต้ผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีให้ย่อยยับ
นอกจากนี้ ในจำนวนเหยื่อที่เสียชีวิตนั้นมีผู้บัญชาทหารระดับสูง พลเรือน และผู้นำชนเผ่าหลายคน ในเหตุการณ์ที่ถือว่านองเลือดที่สุดในประเทศช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
การโจมตีในจังหวัดซิสถาน-บาลูเชสถาน วานนี้ (18) ทำให้ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความมั่นคงในภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ที่มีชายแดนติดกับปากีสถาน และอัฟกานิสถาน ส่วนชนกลุ่มน้อยชาวซุนนีอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่แห้งแล้ง ซึ่งพบเหตุระเบิด และเหตุรุนแรงอื่นๆ เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก
ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สื่อทางการของอิหร่าน รายงานว่า ผู้นำกลุ่มกบฏท้องถิ่น ที่เรียกตัวเองว่าจันดอลเลาะห์ หรือทหารของพระเจ้า ออกมาอ้างความรับผิดชอบในเหตุโจมตีครั้งนี้ ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้นำชนเผ่าในจังหวัดซิสถาน-บาลูเชสถาน
จันดอลเลาะห์ กล่าวหารัฐบาลอิหร่าน ซึ่งนำโดยชาวชีอะห์ ว่า แบ่งแยกเชื้อชาติระหว่างชีอะห์ กับ ซุนนี ในเขตทะเลทรายแห่งนี้ ทั้งยังถูกประณามว่าอยู่เบื้องหลังเหตุรุนแรงหลายต่อหลายครั้งในจังหวัดดังกล่าวในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของอิหร่านยังกล่าวหาสหรัฐฯ และอังกฤษ ว่า มีส่วนพัวพันกับเหตุระเบิดโจมตีดังกล่าว โดยทั้งสองประเทศก็ออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆ
