เอเอฟพี/เอเจนซี – มือระเบิดฆ่าตัวตายระเบิดตัวเองกลางที่ประชุมเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 29 คน บาดเจ็บอีกราว 60 ราย
สำนักข่าวฟาร์ส และไออาร์เอ็นเอรายงานว่า การโจมตีครั้งนี้ นับเป็นเหตุนองเลือดที่สุดในรอบหลายปีของอิหร่าน ที่เกิดขึ้นในเมืองพิชีน ใกล้ชายแดนติดกับจังหวัดซิสถาน-บาลูคีสถานของปากีสถาน โดยมีชายใส่เสื้อกั๊กติดระเบิดเข้าไปก่อเหตุถึงในที่ประชุม
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ของอิหร่านระบุว่า เหตุโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 8.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 11.30 น. ของไทย บริเวณหน้าโรงยิมประจำท้องถิ่น
ฟาร์สยังเสริมว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ของหน่วยทหารดังกล่าว กำลังเตรียมการประชุมระหว่างผู้นำท้องถิ่นชุมชนชาวชีอะห์ และซุนนี โดยบรรดาผู้นำเหล่านั้นก็อยู่ในจำนวนผู้เสียชีวิตด้วย นอกเหนือไปจาก นายพลทหาร ที่ดำรงตำแหน่งระดับสูงในกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านอีก 6 นายด้วย
ด้าน อาลี ลารีจานี ประธานรัฐสภาของอิหร่านได้ยืนยันการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเหล่านั้นในที่ประชุมสภา ซึ่งถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์ โดยชี้ว่า เป้าหมายการก่อการร้ายในครั้งนี้คือการก่อกวนความมั่นคงในจังหวัดซิสถาน-บาลูคีสถาน
อิหร่านเคยกล่าวหากลุ่มจุนดัลเลาะห์ (ทหารแห่งพระเจ้า) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธนิกายซุนนี ในการโจมตีหลายต่อหลายครั้งในจังหวัดดังกล่าว ซึ่งอยู่ติดกับทั้งอัฟกานิสถาน และปากีสถาน
ยิ่งไปกว่านั้น สถานีโทรทัศน์ทางการของอิหร่านรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ระบุว่า อังกฤษมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการโจมตีครั้งนี้ โดยเป็นทั้งผู้จัดการวางแผน จัดหาเครื่องมือ และว่าจ้างผู้ก่อการร้ายมืออาชีพมาก่อเหตุ
ก่อนหน้านี้ กองกำลังปฏิวัติของอิหร่านออกมากล่าวหาว่าสหรัฐฯ มีส่วนพัวพันกับเหตุระเบิดนองเลือดดังกล่าว โดยการกล่าวอ้างความเกี่ยวข้องของต่างชาติกับเหตุรุนแรงในอิหร่านอาจยิ่งทำให้ความตึงเครียดระหว่างอิหร่าน และชาติตะวันตกทวีความรุนแรงมากขึ้น