เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากวาตภัยร้ายแรง 2 ลูกซ้อน ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ ตลอดเดือนที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 858 รายแล้ว ซ้ำร้ายโรคระบาดจากน้ำท่วม ยังคร่าชีวิตเหยื่ออีก 89 คน รัฐบาลแถลงวันนี้ (19)
สภาประสานงานภัยภิบัติแห่งชาติปรับเพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเดิม 818 ราย เมื่อวานนี้ (18)
สภาฯ เผยอีกว่า ไต้ฝุ่นกิสนา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 420 ราย และสูญหาย 37 คน ขณะเกิดฝนตกหนักติดต่อกันกว่า 9 ชั่วโมง ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบกว่า 40 ปี ที่กรุงมะนิลา และส่วนอื่นๆ ของเกาะลูซอน เมื่อวันที่ 26 กันยายน ส่งผลให้พื้นที่ร้อยละ 80 ของกรุงมะนิลา ซึ่งมีประชากรราว 12 ล้านคน มีน้ำท่วมขัง ในขณะที่ระบบการระบายน้ำย่ำแย่ และขาดโครงสร้างพื้นฐานรองรับที่ดีพอ ทำให้ปัญหายิ่งชุลมุนหนักขึ้น มีการตัดไฟและโทรศัพท์ในหลายพื้นที่ รัฐบาลระบุว่า มีผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ถึง 4.35 ล้านคน
หลายพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมขังในอีก 3 สัปดาห์ต่อมา และมีผู้ประสบภัยอีก 189,000 ราย ยังคงแออัดอยู่ที่ค่ายพักพิงชั่วคราว
จากนั้นไต้ฝุ่นป้าหม่า จ่อคิวถล่มซ้ำทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ ในวันที่ 3 ตุลาคม และปกคลุมนานกว่า 1 สัปดาห์ ส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่ม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 438 ราย และสูญหาย 51 คน โดยเหยื่อส่วนใหญ่อยู่ในชุมชนที่ราบสูง
หน่วยงานของรัฐบาล ระบุว่า มีผู้ได้รับผลกระทบจากพายุป้าหม่าถึง 4.16 ล้านราย
กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ซ้ำร้ายโรคฉี่หนู (เลปโตสไปโรซิส) ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งก่อให้เกิดอาการไตวาย อันเกิดจากปัสสาวะของสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งปะปนในน้ำท่วมขัง ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมาอีกอย่างต่ำ 89 คน
อย่างไรก็ตาม แม้พื้นที่ทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์จะพยายามเร่งฟื้นตัวจากวาตภัยร้าย 2 ลูกซ้อน ล่าสุด มีรายงานว่า ไต้ฝุ่นลูกใหม่นามว่า “ลูปี๊ต” กำลังเคลื่อนเข้าใกล้และเตรียมซัดถล่มพื้นที่ดังกล่าวในเร็ววันนี้
