ชาวลอนดอนเซ็ง ประกาศขึ้นค่าตั๋วรถเมล์-รถไฟใต้ดิน

เอเอฟพี - บอริส จอห์นสัน นายกเทศมนตรีนครลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประกาศขึ้นคาตั๋วรถเมล์ และรถไฟใต้ดินในเมืองหลวงของอังกฤษในปีหน้า ระบุ เพื่อชดเชยจำนวนผู้โดยสารที่ลดน้อยลง และช่วยส่งเสริมการลงทุนในเครือข่าย

จอห์นสัน ระบุว่า การขนส่งในลอดดอนเปผชิญกับแรงกดดันทางการเงินครั้งใหญ่ อันเนื่องจากการล่มสลายของบริษัท เมโทรเน็ต ที่เป็นฝ่ายบำรุงรักษาระบบรถไฟใต้ดิน และอัตราผู้โดยสารลดลงเพราะภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ต้องขึ้นค่าโดยสารชดเชยส่วนนี้ และเพื่อส่งเสริมการลงทุนในเครือข่าย

โดยนับตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2010 ค่าโดยสารรถไฟใต้ดินโดยรวมจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 ค่าโดยสารรถเมล์เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 เมื่อเที่ยบกับอัตราเงินเฟ้อที่ตกลงที่ร้อยละ 1.1 ในเดือนกันยายน ขณะที่การเก็บค่าเข้าเมืองจากผู้ขับขี่รถในวันทำงานก็จะเพิ่มด้วย

การเพิ่มค่าโดยสารดังกล่าวจะทำให้ตั๋วรถเมล์เที่ยวเดียวเพิ่มจากราคา 1 ปอนด์ เป็น 1.20 ปอนด์ และตั๋วรถไฟใต้ดินเที่ยวเดียวในทุกโซนเพิ่มจาก 4 ปอนด์เป็น 4.50 ปอนด์ ขณะที่บัตรพรีเพด(ออยสเตอร์)สำหรับการเดินทางในโซนเดียวจะเพิ่มขึ้น 20 เพนนี เป็น 1.80 ปอนด์ และเพิ่มขึ้น 40 เพนนี เป็น 16.60 ปอนด์สำหรับประเภทเดินทางได้ในทุกโซน

ขณะที่ราคาตั๋วรายสัปดาห์ของรถเมล์จะเพิ่มจาก 13.80 ปอนด์เป็น 16.60 ปอนด์ ส่วนค่าเข้าเมืองในเขตการจราจรหนาแน่นจะเพิ่มจากวันละ 8 ปอนด์ เป็น 10 ปอนด์ด้วย หรือ 9 ปอนด์หากสมัครชำระในระบบสมาชิก

บ๊อบ โครว์ ประธานสหภาพแรงงานการขนส่งระบบรางอังกฤษ ออกมากล่าวโจมตีว่า การขึ้นค่าโดยสารเป็นผลจากความล้มเหลวทางการเมือง และซ้ำเติมประชาชนที่กำลังเเผชิญภาวะเศรษฐกิจ ทั้งยังเตือนว่า การขึ้นค่าโดยสารจะทำให้ชาวลอนดอนหันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น ส่งผลให้ผู้โดยสารลดน้อยลงไปอีก ซึ่งสวนทางกับนโยบายสีเขียวของนายจอห์นสันเอง ที่พยายามเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชน