“โอบามา” มีชัยสำคัญหลัง “แผนปฏิรูป” ระบบประกันสุขภาพคืบหน้าก้าวใหญ่

เอเอฟพี/เอเยนซีส์ - ความพยายามของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ที่จะผลักดันให้สหรัฐฯยกเครื่องระบบประกันสุขภาพกันใหม่หมดภายในปีนี้ สามารถผ่าน “หลักหมายอันสำคัญยิ่งยวด” ไปได้ในวันอังคาร (13) เมื่อคณะกรรมาธิการการเงินของวุฒิสภา ลงมติด้วยคะแนน 14 ต่อ 9 ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูประบบดูแลสุขภาพได้สำเร็จ โดยที่มีวุฒิสมาชิกของพรรครีพับลิกันคนหนึ่ง หันมาออกเสียงสนับสนุนด้วย

ร่างกฎหมายของคณะกรรมาธิการการเงินวุฒิสภานี้ ใกล้เคียงกับสิ่งที่โอบามาพยายามผลักดันและถือเป็นนโยบายสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งของเขาตั้งแต่ตอนรณรงค์หาเสียงเป็นประธานาธิบดี โดยเนื้อหาสาระหลักคือแผนการ 10 ปี มูลค่า 829,000 ล้านดอลลาร์ ที่จะตัดลดการใช้จ่ายด้านประกันสุขภาพในสหรัฐฯให้ต่ำลง แต่ให้ครอบคลุมคุ้มครองผู้คนในสหรัฐฯอีกจำนวน 46 ล้านคนที่เวลานี้ยังไม่มีหลักประกันด้านสุขภาพใดๆ ทั้งสิ้น

แผนการเช่นนี้ทางพรรคเดโมแครตเคยพยายามผลักดันตั้งแต่ยุคประธานาธิบดี บิล คลินตัน ทว่าประสบความล้มเหลว และในปัจจุบันก็ยังคงถูกต้านทานอย่างหนัก ทั้งจากพรรครีพับลิกันที่กล่าวหาว่า จะทำให้รัฐเข้ามามีบทบาทบงการมากเกินไป ตลอดจนเป็นแผนการที่ไร้ประสิทธิภาพ และทั้งจากพวกบริษัทประกันภัย ที่หวั่นเกรงจะสูญเสียธุรกิจประกันสุขภาพมูลค่ามหาศาล

หลังจากนี้ ผู้นำของวุฒิสภาและทางทำเนียบขาว จะต้องนำเอาร่างนี้ และอีกร่างหนึ่งที่คณะกรรมาธิการสาธารณสุขวุฒิสภาอนุมัติไปแล้ว มารวมให้กลายเป็นร่างเดียวกัน และเสนอให้วุฒิสภาทั้งสภารับรองต่อไป ขณะเดียวกัน ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ก็ได้มีการผ่านร่างกฎหมายเช่นนี้ออกมารวม 3 ร่าง กำลังอยู่ในกระบวนการรวมให้กลายเป็นฉบับเดียวเช่นกัน

ภายหลังจากวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรต่างฝ่ายต่างผ่านร่างที่เป็นฉบับหนึ่งเดียวของตนออกมาแล้ว ก็จะต้องมีกระบวนการนำเอาร่างของแต่ละสภามารวมเป็นฉบับเดียวกันอีก แล้วจึงส่งกลับให้แต่ละสภารับรองอีกครั้ง จากนั้นจึงนำมาให้ประธานาธิบดีลงนามประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ทางด้าน โอบามา ได้ออกคำแถลงอย่างเร่งด่วนภายหลังคณะกรรมาธิการการเงินวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพในวันอังคาร โดยบอกว่า “เวลานี้เรากำลังขยับเข้าไปใกล้ที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา เพื่อให้มีการผ่านกฎหมายปฏิรูปสุขภาพ แต่ทว่าเรายังไปไม่ถึงจุดนั้นในตอนนี้” เขากล่าวว่า “ร่างกฎหมายนี้ไม่ได้มีความสมบูรณ์แบบ นอกจากนั้น เรายังต้องมีงานอันยากลำบากอีกมากมายรอเราอยู่ข้างหน้า ยังจะต้องมีรายละเอียดอันสำคัญและการไม่เห็นพ้องต้องกันที่จะต้องแก้ไขกันตลอดช่วงหลายๆ สัปดาห์ต่อจากนี้ไป”