เอเอฟพี - ฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักทั่วพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย ส่งผลให้ปฏิบัติการช่วยเหลือต้องยุติลงชั่วคราวในวันนี้ (5) ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเร่งหาทางป้องกันการระบาดของโรคภัยไข้เจ็บ เนื่องจากศพจำนวนหลายพันยังคงถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
ฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนักทั่วเมืองท่าปาดัง ซึ่งประสบธรณีพิบัติภัย และพื้นที่ใกล้เคียง ซ้ำเติมความทุกข์ยากของเหยื่อจำนวนมากซึ่งไร้ที่อยู่อาศัย เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.6 ริกเตอร์ เมื่อวันพุธที่แล้ว (30)
ทีมกู้ภัยและบรรเทาทุกข์ต่างชาติยังคงหลั่งไหลสู่เมืองปาดัง แม้ตอนนี้แทบไม่มีความหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารบ้านเรือนและโรงแรมที่พังถล่มลงมา
“เป้าหมายของเราในตอนนี้ คือ การค้นหาร่างผู้เสียชีวิต” ปรียาดี การ์โดโนโฆษกสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติบอกกับเอเอฟพี
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวก่อนหน้านั้น ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,100 รายจากธรณีพิบัติครั้งนี้ แต่จากการประมาณการหลายครั้ง พบว่า สุดท้ายแล้วยอดผู้เสียชีวิตอาจสูง 5,000 ราย
คณะนักบินเฮลิคอปเตอร์ตำรวจบอกกับเอเอฟพี ว่า สภาพอากาศที่เลวร้ายเป็นอุปสรรคต่อภารกิจการลำเลียงขนส่งเสบียงและเวชภัณฑ์ไปยังหมู่บ้านต่างๆ ที่อยู่ห่างไกล ซึ่งประสบเหตุแผ่นดินถล่มเนื่องจากธรณีพิบัติภัย
ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายคน บอกว่า กำลังเร่งทำงานแข่งกันเวลาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคภัยไข้เจ็บ เนื่องจากร่างผู้เสียชีวิตเริ่มเน่าเปื่อย ตลอดจนขาดแคลนน้ำสะอาด
“เรื่องน่าวิตก คือ น้ำสกปรกอาจแพร่กระจายโรคทางผิวหนัง ตลอดจนโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ แมลงวันที่ตอมศพอาจแพร่กระจายแบคทีเรียสู่คน” รุสตัม ปากายา ผู้อำนวยการศูนย์วิกฤตแห่งชาติ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
“เพื่อป้องกันการโรคระบาด เราได้แจกจ่ายยาฆ่าเชื้อให้กับผู้ประสบภัยเมื่อวานนี้ (4)”
รัฐบาลอินโดนีเซีย กล่าวว่า ได้จัดสรรเงินมูลค่า 6 ล้านล้านรูเปียห์ เพื่อบูรณะฟื้นฟูเมืองปาดัง ซึ่งประสบธรณีพิบัติภัยครั้งนี้หนักหนาสาหัสที่สุด โดยอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่เสียหายหรือพังทลายราบ ไม่เว้นแม้แต่โรงพยาบาลและโรงเรียน