เอเจนซี - หน่วยกู้ภัย ซึ่งพยายามตรวจตราค้นหาอย่างละเอียดตามซากปรักหักพังในเมืองปาดังของอินโดนีเซีย ซึ่งประสบธรณีพิบัติภัยเมื่อสัปดาห์ก่อน ยอมรับในวันนี้ (4) ว่า แทบไม่มีความหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม จากแผ่นดินไหวรุนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่หลายคนคาดว่า น่าจะมีผู้เสียชีวิตมากถึง 3,000 ราย
ขณะที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยรุกคืบลึกเข้าไปบนเกาะสุมาตรา ซึ่งประสบเหตุแผ่นดินไหว พวกเขาถึงกับผงะเมื่อพบว่าหมู่บ้านทั้งหมดถูกฝังกลบ เนื่องจากแผ่นดินถล่ม ส่วนผู้รอดชีวิต ซึ่งไร้ที่อยู่อาศัย กำลังขาดแคลนน้ำ, อาหาร และที่พักพิง
“ผมเหลือตัวคนเดียว” ซูลฟาห์มี วัย 39 ปี กล่าว “ลูก, เมีย และแม่ยายของผม จากไปหมดเลย ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดถูกฝังอยู่ใต้ดิน”
เกิดธรณีพิบัติภัยขนาด 7.6 ริกเตอร์ ที่เมืองปาดังเมื่อวันพุธ (30) ที่แล้ว ส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่มตามมา
สิตี ฟาดิลาห์ ซูปารี รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียบอกกับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ว่า รัฐบาลคาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตน่าจะสูงถึง 3,000 ราย พร้อมกำชับว่า โรคภัยไข้เจ็บกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ เฉพาะอย่างยิ่งที่เมืองปาดัง ที่ซึ่งศพผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากที่เริ่มเน่าเปื่อย ยังคงติดค้างอยู่ตามซากอาคารที่พังถล่มลงมา
“เราพยายามเก็บกู้ผู้ประสบเหตุออกมาจากซากปรักหักพัง ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย เราพยายามจะช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ตอนนี้เรากำลังมุ่งเน้นการจำกัดการเสียชีวิตหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว”
ที่ปาดัง เมืองท่าสำคัญซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ราว 900,000 คน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าเครื่องเทศ หน่วยกู้ภัยพยายามค้นหาตามซากอาคารที่พังถล่มลงมา เพื่อค้นหาเหยื่อจำนวนหลายพันรายที่ติดค้างอยู่
“เรากำลังตรวจสอบในขั้นตอนสุดท้าย ก่อนจะประกาศยุติปฏิบัติการค้นหา เราคิดว่า นี่คือช่วงสุดท้ายของปฏิบัติการค้นหา” ปีเตอร์ โอลด์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากอังกฤษกล่าว
“แทบไม่มีความหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิต นี่เป็นการเริ่มต้นนับถอยหลังปฏิบัติการกู้ชีพ”
ย่านไชน่าทาวน์ของเมืองปาดัง ซึ่งประกอบด้วยร้านค้าเก่าแก่มากมาย ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวครั้งนี้
ในบริเวณเดียวกัน ความหวังเริ่มริบหรี่ลงที่จะพบผู้รอดชีวิตที่ติดค้างอยู่ใต้ซากโรงแรมอัมบาจัง ซึ่งมีรายงานว่า ผู้ประสบภัยรายหนึ่ง ที่ติดอยู่ใต้ซากโรงแรมดังกล่าว ส่งข้อความถึงญาติเมื่อวันศุกร์ (2) ว่า มีผู้รอดชีวิตอีก 8 คน ติดอยู่ใต้ซากอาคารของโรงแรมที่พังถล่มลงมา