เอเอฟพี - รัฐบาลฟิลิปปินส์วอนขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ หลังยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในกรุงมะนิลา และพื้นที่ใกล้เคียงแตะ 140 คนแล้ว ขณะที่อีก 32 คนสูญหาย ประชาชนพลัดถิ่นฐานอีกเกือบ 5 แสนคน หลังจากพายุฤดูร้อนกิสนาพาดผ่านพื้นที่ทางตะวันออกตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา
พายุกิสนาทำให้เกิดฝนตนในกรุงกรุงมะนิลา และพื้นที่ใกล้เคียงติดต่อกันนาน 9 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนัก โดยบางจุดลึกถึง 6 เมตร ขณะที่ระบบระบายน้ำที่ไม่ดีพอ ทำให้สถานการณ์หนักยิ่งขึ้นไปอีก โดยพื้นที่ร้อยละ 80 ของกรุงมะนิลา จมอยู่ภายใต้น้ำ บางจุดน้ำยังคงระดับถึงเอวในวันนี้ (28) ขณะที่พื้นที่ส่วนอื่นๆ น้ำท่วมถึงเข่า
สถานีโรทัศน์ท้องถิ่น รายงานว่า ประชาชนบางคนต้องติดค้างอยู่ชั้นบนของบ้าน หรือบนหลังคานานกว่า 48 ชั่วโมง ความโกลาหลรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อไม่มีและบริการโทรศัพท์ท่ามกลางความไม่พอใจที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือล่าช้า
ด้่านกิลแบร์โต ทีโอโดโร รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 140 คนแล้ว และคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่ประชาชนต้องพลัดถิ่นฐาน 453,033 คน ส่วนสถานการณ์ในค่ายพักพิงชั่วคราวเลวร้ายมาก เพราะอาหารและน้ำเริ่มจะร่อยหรอ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีกลาโหม ขอให้นานาชาติออกมาให้ความช่วยเหลืออุทกภัยครั้งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปีของฟิลิปปินส์
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานด้านภัยพิบัติแห่งชาติถึงกับออกมาระบุว่า รับมือกับหายนภัยพิบัติครั้งนี้ไม่ไหว เพราะพื้นที่ประสบภัยครอบคลุมหลายจังหวัด ทำให้ทรัพยากรและบุคลากรกระจายไม่ทั่วถึง
อย่างไรก็ตาม นานาชาติประกาศให้ความช่วยเหลือฟิลิปปินส์แล้ว หน่วยคอมมานโดของสหรัฐฯได้เข้ามาช่วยกู้ภัย นอกจากนี้ ทั้งสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ รวมถึงหน่วยงานของสหประชาชาติได้จัดตั้งกองทุนขึ้นสำหรับการฟื้นฟูจากภัยพิบัติครั้งนี้ โดยสหรัฐฯได้ส่งเงินช่วยเหลือมา 50,000 ดอลลาร์แล้ว จีน 10,000 ดอลลาร์ สิงคโปร์ 30,000 ดอลลาร์ และเบื้องต้น 20,000 ดอลลาร์ จากกาชาดสากล ด้านญี่ปุ่นประกาศว่าจะให้ถึง 220,000 ดอลลาร์