เอเจนซี - รายงานที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันจันทร์(21) ระบุว่า ทั่วโลกจะมีผู้ป่วยอัลไซเมอร์และโรคสมองเสื่อมอื่นๆ กว่า 35 ล้านคนในปีหน้า และมีเพียงส่วนน้อยที่จะได้รับการรักษา ขณะที่คาดว่าตัวเลขผู้ป่วยจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นต่อไป
กลุ่มโรคอัลไซเมอร์สากลซึ่งเป็นการรวมตัวของสมาคมอัลไซเมอร์ทั่วโลกประเมินว่าในปี2010 จะมีผุู้ป่วยโรคสมองเสื่อม 35.6 ล้านคนในทั่วโลก และตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวทุกๆ 20 ปี คือ เพิ่มเป็น 65.7 ล้านคนในปี 2030 และ 115.4 ล้านคนในปี 2050 โดยสถานการร์ของโรคนี้จะเลวร้ายมากยิ่งขึ้นในกลุ่มประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง เนื่องจากขาดความพร้อมในการวินิจฉัยหรือให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยโรคนี้
รายงานระบุว่า โรคสมองเสื่อมเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา การใช้ยาจะช่วยบรรเทาอาการได้เพียงระยะหนึ่ง แต่จากนั้นคนไข้จะสูญเสียความจำและไม่สามารถดูแลตัวเองได้
ด้านผลการศึกษาของสถาบันคาโรลินสกาในสวีเดนเมื่อปี 2005 ประเมินว่า ทั่วโลกหมดค่าใช้จ่ายไปกับโรคสมองเสื่อมปีละ 315,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แยกเป็นประเทศร่ำรวย 227,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเทศรายได้น้อยและปานกลาง 88,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.992 ล้านล้านบาท)
ทั้งนี้ รายงานยังแนะว่า รัฐบาลแต่ละประเทศควรจัดให้โรคสมองเสื่อมเป็นปัญหาสุขภาพสำคัญ และจัดทำแผนระดับชาติขึ้นให้บริการผู้ป่วย ประเทศรายได้น้อยและปานกลางควรเน้นส่งเสริมการดูแลสุขภาพเบื้องต้นและบริการในชุมชน ขณะที่ประเทศร่ำรวยควรเน้นเรื่องการจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสม