เอเอฟพี/เอเจนซี - บุตรชายอดีตประธานาธิบดี คอราซอน อาควิโน ประกาศตัวลงชิงชัยตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์ในปีหน้า เพื่อสานต่อเจตนารมณ์มารดา พร้อมประกาศตามล่า “สมบัติมาร์กอส” กลับคืนสู่ประชาชนทั้งประเทศ
วุฒิสมาชิก เบนินโญ โกฮวงโก อาควิโนที่ 3 หรือ “นอยนอย” บุตรชายคนเดียวของอดีตประธานาธิบดี คอราซอน อาควิโน ผู้ล่วงลับ และวุฒิสมาชิก เบนินโญ อาควิโน จูเนียร์ ซึ่งถูกลอบสังหารเมื่อปี 1983 ออกมาประกาศตัวเมื่อวานนี้ (9) ว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ในปีหน้า เพื่อหวังสานต่องานที่มารดาของเขาเคยทำมาระหว่างที่เธอดำรงตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์ ช่วงปี 1986-1992
วุฒิสมาชิกอาควิโน วัย 49 ปี ซึ่งเป็นรองประธานพรรคการเมืองฝ่ายค้าน “ลิเบอรัล ปาร์ตี” ได้ออกมาแถลงเรื่องดังกล่าวที่ “คลับ ฟิลิปิโน” ในเมืองซานฮวน ซิตี ที่เคยใช้เป็นสถานที่ทำพิธีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของมารดาของเขาในปี 1986 และเป็นการประกาศเป้าหมายทางการเมืองของนอยนอย หลังจากที่นางอาควิโนเสียชีวิตครบรอบ 40 วันพอดี
วุฒิสมาชิกอาควิโน บอกว่า หากได้เป็นประธานาธิบดี เขาจะต่อสู้อย่างหนักเพื่อปราบปรามการคอร์รัปชันทุกรูปแบบที่เป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมฟิลิปปินส์ พร้อมยืนยันว่า จะเป็นผู้นำชาวฟิลิปปินส์ทุกชนชั้นทั้งคนยากจนและคนรวย โดยเชื่อมั่นว่า จะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างกว้างขวางเช่นเดียวกับมารดาของเขา
ก่อนหน้านี้ แฟรงคลิน มักตูเนา ดริลอน ประธานของพรรคลิเบอรัล ได้ออกมาเปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์เอบีเอส-ซีบีเอ็น ว่า วุฒิสมาชิกอาควิโน ตอบรับเป็นตัวแทนพรรคเพื่อลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2010 แล้วหลังจากที่ประธานาธิบดีกลอเรีย มากาปากัล อาร์โรโย อยู่ในตำแหน่งจนครบวาระตามรัฐธรรมนูญ แม้จะมีกระแสข่าวว่าผู้สมัครพรรคฝ่ายค้านอีก 2 คน คือ วุฒิสมาชิก มานูเอล โรซัส และ เฮโฮมาร์ บินาย ประสงค์จะลงสมัครเช่นกัน
ขณะที่ โลเรไล ฟาฮาร์โด โฆษกส่วนตัวของประธานาธิบดีอาร์โรโย ออกมาเปิดเผยว่า ผู้นำฟิลิปปินส์รู้สึกยินดีกับข่าวการประกาศลงสมัครของวุฒิสมาชิกอาควิโนในครั้งนี้ และมั่นใจว่าเขาจะเป็นหนึ่งในตัวเต็งในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปีหน้า
ในการลงชิงชัยคราวนี้ จะทำให้นอยนอยต้องขับเคี่ยวกับคู่แข่งคนสำคัญ คือ กิลเบร์โต เตโอโดโร ลูกพี่ลูกน้องของเขา ซึ่งเป็นตัวเต็งผู้สมัครจากฝ่ายรัฐบาล และวุฒิสมาชิก มานูเอล บีญาร์ ที่เป็นอดีตราชาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของประเทศ รวมทั้งอดีตประธานาธิบดี โจเซฟ เอสตราดา วัย 72 ปี ซึ่งระบุว่า ต้องการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยหลังเคยครองตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์มาแล้วระหว่างปี 1998-2001
รายงานข่าวระบุว่า นอกจากวุฒิสมาชิกอาควิโน จะประกาศตัวลงชิงตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์แล้ว เขายังได้ประกาศจะตามไล่ล่าเพื่อนำเอา “ความมั่งคั่งที่ถูกปล้น” ซึ่งหมายถึงทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลของ เฟร์ดินานด์ มาร์กอส และคนในครอบครัวมาร์กอส กลับคืนมาสู่ประชาชนชาวฟิลิปปินส์ให้ได้ เพื่อดำรงความยุติธรรมในประเทศ หลังจากที่ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลมาร์กอส ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าสูงถึง 10,000-35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 340,000 ล้านบาท ถึง 1.2 ล้านล้านบาท พร้อมด้วยทองคำน้ำหนักรวมกว่า 7,500 ตัน เพิ่งจะถูกติดตามคืนกลับมาเพียงแค่ 684 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 23,300 ล้านบาท เท่านั้น
นอยนอย กล่าวว่า “ครอบครัวของผม และชาวฟิลิปปินส์ต่างได้รับความทุกข์ทรมานกับการปกครองอันกดขี่ของมาร์กอสตลอดระยะเวลา 20 ปี ในช่วงปี 1965-1986 และการติดตามทรัพย์สินของมาร์กอสตลอดระยะเวลา 23 ปีที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ผมยังเชื่อว่าแม้ความยุติธรรมในประเทศนี้อาจจะถูกเพิกเฉยไปบ้าง หรือล่าช้าไปบ้าง แต่สักวันหนึ่งผมและชาวฟิลิปปินส์จะได้รับความยุติธรรมนั้นกลับคืนมาอย่างแน่นอน”