แม่ผู้ดีก่อคดีสะเทือนใจใช้มีดจ้วงแทงลูกสาวในไส้ประชดผัวเก่า

เอเจนซี - พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งก่อเหตุสะเทือนขวัญ ใช้มีดจ้วงแทงลูกสาว 2 คนขณะนอนหลับจนตายภายในบ้านพัก ก่อนไปสารภาพกับเพื่อนว่าตนเองได้ทำอะไรบางอย่างที่เลวร้ายมาก อัยการเชื่อมีเจตนาประชดสามีเก่า ในเรื่องราวที่ถูกเปิดเผยระหว่างการพิจารณาคดี ณ ศาลแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนเมื่อวันจันทร์(7)

เรคา คูมารี-เบเกอร์ ลงมือสังหารลูกสาว 2 คนคือดาวินา วัย 16 ปีและแจสมิน วัย 13 ปี ด้วยมีดทำครัวในการจู่โจมอันคลุ้มคลั่ง จอห์น ฟาร์เมอร์ อัยการบอกกับศาลแคมบริดจ์ คราวน์

อัยการบอกอีกว่า ดาวินา ซึ่งถูกแทงถึง 39 แผลต่อหน้าต่อตาน้องสาว เสียชีวิตด้วยพิษบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง จากนั้นผู้เป็นแม่ก็ลงมือสังหาร แจสติน ด้วยอาวุธเล่มเดียวกัน

ฟาร์เมอร์ กล่าวต่อว่า คูมารี-เบเกอร์ ทะเลาะกับ ดาวิด เบเกอร์ สามีเก่าเกี่ยวกับสิทธิในการดูแลเด็กทั้งสองคนและบางทีเธอาจต้องการทำลายเขาด้วยการฆ่าลูกๆ

หลังจากลงมือฆ่า คูมารี-เบเกอร์ ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและขับรถออกนอกบ้าน ก่อนโทรศัทพ์ไปหาเพื่อนที่ชื่อนาตาลี บาร์ฟอร์ด โดยเธอได้ทิ้งข้อความไว้ในเครื่องตอบรับโทรศัพท์อัตโนมัติของเธอว่า "ฉันได้ทำอะไรบางอย่างที่น่าขยะแขยงมาก นาตาลี กรุณาโทรกลับฉันด้วย" อัยการระบุ

ทั้งนี้ คูมารี-เบเกอร์ วัย 41 ปี ปฏิเสธข้อหาฆาตกรรมลูกสาว 2 คน ณ บ้านของพวกเขาในสเตรทแฮม เมื่อเดือนมิถุนายน 2007 ขณะที่คณะลูกขุนบอกว่าทนายความของ คูมารี-เบเกอร์ ได้โต้แย้งว่าเธอความมีผิดปกติทางจิตอย่างรุนแรงขณะที่ลงมือฆ่าลูกสาวตนเอง

ฟาร์เมอร์บอกว่าหากคณะลูกขุนรับฟังข้อโต้แย้งของจำเลย ทางคูมารี-เบเกอร์ ก็อาจมีความผิดในข้อหาที่เบากว่าคือฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

คณะลูกขุนระบุว่าคูมารี-เบเกอร์ บอกกับบาร์ฟอร์ด ระหว่างคุยโทรศัพท์ว่า "ฉันฆ่าลูกๆ เด็กทั้งสองคนตายแล้ว"

ส่วนอีกบทสนทนาหนึ่งระบุว่า "ฉันใช้มีดจากในครัวแทงพวกเขา มันเลวร้ายมาก แต่อย่างน้อยตอนนี้เด็กๆก็ปลอดภัยเพราะไม่มีใครสามารถทำร้ายพวกเขาได้อีกแล้ว"

อย่างไรก็ตาม คูมารี-เบเกอร์ บอกกับตำรวจในชั้นสืบสวนว่าเธอไม่ได้พูดอย่างนั้น พร้อมอ้างว่าในตอนที่โทรศัพท์เธอไม่ทราบจริงๆว่าเด็กทั้งสองคนเสียชีวิตแล้วหรือไม่