เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วงลงเกือบ 3 เปอร์เซ็นต์ แตะระดับ 68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันอังคาร(1) จากความกังวลทางเศรษฐกิจส่งให้นักลงทุนหันเหไปยังช่องทางการลงทุนที่ปลอดภัยกลบข้อมูลทางบวกจากภาคอุตสาหกรรมและยอดขายบ้านสหรัฐฯ ขณะที่วอลล์สตรีทปิดลบสองวันติด หลังมีความหวั่นเกรงต่อ “กันยายนเอฟเฟกต์”
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 2.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.92 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในช่วงต้นของการซื้อขาย ราคาน้ำมันขยับขึ้นไปอยู่ในแดนบวก ขณะที่ตลาดพุ่งเป้าไปยังรายงานที่เผยให้เห็นว่าดัชนีภาคอุตสาหกรรมขยับขึ้นก้าวกระโดด เช่นเดียวกับยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น
สำนักงานจัดการด้านอุปทานสหรัฐฯ ระบุในผลสำรวจที่เปิดเผยในวันอังคาร(1) ว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ เพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม โดยกระโดดขึ้นมาที่ 52.9 เปอร์เซ็นต์ จาก 48.9 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกรกฎาคม
ตัวเลขดังกล่าวแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะอยู่ที่ 50.5 เปอร์เซ็นต์ และถือเป็นข่าวดีสำหรับเศรษฐกิจที่กำลังตะเกียกตะกายออกจากภาวะถดถอยรุนแรงที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2007
อีกหนึ่งสัญญาณบวกที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวจากภาวะถดถอยคือสมาคมอสังหาริมทรัพย์แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยในรายงานระบุว่ายอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันในเดือนกรกฎาคม โดยขยับขึ้น 3.2 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ถึง 2 เท่า
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันก็เหี่ยวปลายตามหลังตลาดหุ้น ขณะที่นักลงทุนหันไปยังช่องทางการลงทุนที่ปลอดภัย จากความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพทางภาคการเงินของสหรัฐฯ
ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร(1) ปิดลบเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยนอกจากความกังวลทางภาคการเงินแล้ว นักลงทุนยังล่าถอยตั้งหลักเหตุวอลล์สตรีทขยับขึ้นอย่างแรงเมื่อสัปดาห์ก่อนท่ามกลางความหวั่นกลัวต่อภาวะที่เรียกกันว่า “กันยายนเอฟเฟกต์” ที่เดือนกันยายนในเกือบทุกปีมักเป็นเดือนที่ยุ่งยากสำหรับนักลงทุน
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 187.27 จุด (1.97 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,309.01 จุด แนสแดค ลดลง 41.21 จุด (2.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,967.85 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 22.72 จุด (2.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 997.90 จุด
“เข้าสู่เดือนกันยายน ตามประวัติศาสตร์มันคือเดือนที่สาหัสที่สุดในรอบปีของนักลงทุน” เฟรด ดิคสัน หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การตลาด ณ สถาบันดีเอ ดาวิดสันแอนด์โค. ระบุ