เอเอฟพี - สองสามีภรรยาแคลิฟอร์เนียเมื่อวันศุกร์(28) ปฏิเสธข้อหล่าวหาลักพาตัวเด็กหญิงวัย 11 ขวบและกักขังเธอไว้เป็นทาสบำเรอกามนานกว่า 18 ปี พร้อมอ้างกรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องราวอันน่าอบอุ่น ขณะเดียวกันมีคำถามมากขึ้นเรื่อยๆว่าทำไมถึงทั้งสองคนถึงปกปิดเรื่องนี้ไว้ได้เป็นเวลานานโดยไม่มีใครระแคะระคายเลย
ฟิลลิป เครก การ์ริโด วัย 58 ปีและ แนนซี ภรรยาของเขาวัย 54 ปี ปฏิเสธข้อกล่าวหาในความผิดทางอาญา 28 กระทงในจำนวนนั้นรวมไปถึงลักพาตัว ข่มขืนและกักขังหน่วงเหนี่ยว ตามหลังกรณีการค้นพบตัว เจย์ซี ดูการ์ด เมื่อวันพุธ(26) เกือบ 2 ทศวรรษหลังจากเด็กนักเรียนหญิงผมบลอนด์รายนี้ถูกคนร้ายสองคนฉุดตัวขึ้นรถยนต์สีเทาคันหนึ่ง ในขณะที่เธอกำลังเดินไปที่ป้ายรถเมล์ใกล้บ้านในเมืองเซาท์เลคตาโฮ ทางตะวันออกของซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1991
ดูการ์ด ที่เวลานี้อายุ 29 ปี ถูกกักบริเวณอยู่ในโรงเก็บของและเต็นท์ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังสนามหลังบ้านของการ์ริโดในเมืองแอนติออค ราว 80 กิโลเมตรทางตะวนออกของซานฟรานซิสโก
เมื่อวันพฤหัสบดี(27) ตำรวจเปิดเผยว่าการ์ริโด ซึ่งเคยต้องโทษจำคุกในมลรัฐเนวาดาจากข้อหาลักพาตัวและข่มขืนเมื่อปี 1971 ได้ข่มขืนดูการ์ดและมีลูกกับเธอ 2 คน ซึ่งตอนนี้อายุ 15 และ 11 ปี ที่ก็ถูกขังอยู่ในห้องเก็บของเช่นเดียวกับมารดา
ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นแห่งหนึ่ง การ์ริโก ยอมรับว่าการลักพาตัว ดูการ์ด ขณะที่เธอเดินอยู่นอกบ้านในเซาท์เลคตาโฮในปี 1991 คือ "สิ่งที่น่าขยะแขยง" แต่เขาอ้างว่าได้เปลี่ยนตนเองตั้งแต่นั้นและกรณีนี้เป็นเรื่องราวอันอบอุ่น
แม้ว่าคดีลักพาตัวดูการ์ดยังไม่ได้มีการปิดคดี แต่ตลอด 18 ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคยพบร่องรอยของดูการ์ด หรือแม้แต่รถยนต์สีเทาคันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุดังกล่าวเลย จนกระทั่งในวันอังคาร(25)ที่ผ่านมา เมื่อการ์ริโดพยายามขับรถคันดังกล่าวเข้าไปในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์กลีย์ โดยมีเด็กทั้งสองคนนั่งอยู่ในรถคอยช่วยแจกใบปลิวเกี่ยวกับศาสนา
ต่อมาตำรวจในมหาวิทยาลัยรู้สึกผิดสังเกตเกี่ยวกับท่าทีของเด็กหญิงทั้งสองจึงได้สอบถามข้อมูลต่างๆ และได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติของการ์ริโด และเมื่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติได้ไปเยี่ยมบ้านของการ์ริโด ก็ได้พบกับภรรยาของเขา เด็กหญิงสองคน และผู้หญิงอีกคนหนึ่ง อ้างว่าชื่อ “อัลลิซซา” ซึ่งต่อมาก็พิสูจน์ได้ว่าคือดูการ์ดนั่นเอง
ตำรวจบอกว่าได้เข้าไปค้นบ้านของการ์ริโด และพบว่ามีสถานคุมขังซ่อนอยู่ในสนามหลังบ้าน โดยดูการ์ดและเด็กผู้หญิงอีกสองคนถูกกักบริเวณอยู่ในโรงเก็บของและเต็นท์ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังนั้น
แนนซี การ์ริโด สะอึกสะอื้นตลอดช่วงเวลา 5 นาทีที่เข้ารับฟังการพิจารณาของศาลเมื่อวันศุกร์(28) ขณะที่สามีของเธอยืนนิ่งไม่แสดงความรู้สึกอยู่ข้างๆ ทั้งนี้ทั้งสองคนปฏิเสธข้อกล่าวหาผ่านทนาย
ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านของการ์ริโด ได้แสดงความรู้สึกช็อกอย่างมากต่อกรณีที่ไม่มีใครทราบถึงคุกลับมาก่อนเลย
หนังสือพิมพ์เดอะซานฟรานซิสโกครอนิเคิลรายงานว่า เพื่อนบ้านของการ์ริโดมองว่าเขาเป็นคนประหลาด เพราะเขาเล่าว่าเขาต้องเข้าไปประกอบพิธีทางศาสนาในเต็นท์หลังบ้าน และบอกว่าเขาได้สร้างอุปกรณ์บางอย่างเพื่อควบคุมเสียงรบกวนในจิตใจของเขา
ตำรวจในคอนทราคอสตาเคาน์ตี เมื่อวันศุกร์(28) ยอมรับว่าพวกเขาได้รับการแจ้งในเดือนพฤศจิกายนปี 2006 ว่ามีเด็กอาศัยอยู่ในสวนหลังบ้าน แต่ก็ไม่ได้ติดตามอย่างแน่ชัด
นายอำเภอ วาร์เรน อี.รูพฟ์ ได้แถลงขอโทษต่อการพลาดโอกาสช่วยเหลือดูการ์ด โดยยอมรับว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายรู้สึกกระวนกระวายใจต่อความล้มเหลวในการสืบพบคดีอาชญากรรมของการ์ริโดก่อนหน้านี้
นายอำเภอยืนยันว่าเพื่อนบ้านหลายรายได้โทรแจ้ง 911 ในเดือนพฤศจิกายน 2006 ว่ามีเด็กอาศัยอยู่บ้านของการ์ริโด ทว่าผู้ช่วยนายอำเภอซึ่งเป็นคนรับโทรศัพท์กลับไม่เคยย่างกรายเข้าไปในบ้านหรือตรวจสอบสวนหลังบ้าน ทำให้พลาดโอกาสในการช่่วยเหลือเหยื่อไป