เอเอฟพี - ชาวสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เชื่อว่าแผนกระตุ้นเศรษกิจมูลค่า 787,000 แสนล้านดอลลาร์ที่สนับสนุนโดยประธานานธิบดีบารัค โอบามา และผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาเมื่อ 6 เดือนก่อน ไม่ได้ช่วยกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศให้พ้นจากภาวะถดถอย
ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนชาวสหรัฐฯ ของยูเอสเอทูเดย์/กัลลับ ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันจันทร์(17) พบว่าร้อยละ 41 ของชาวมะกันคิดว่าแผนกระตุ้นดังกล่าวช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีขึ้น ทว่ามีถึงร้อยละ 51 ที่เชื่อว่าแผนนี้ไม่ได้สร้างความแตกต่างหรือยิ่งแต่ทำให้ภาวะถดถอยย่ำแย่ลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม โพลของยูเอสเอทูเดย์ตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมีมุมมองไม่ตรงกันต่อผลกระทบของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ แต่เกือบทั้งหมดก็เชื่อว่าภาวะถดถอยอาจเลวร้ายกว่าเป็นที่อยู่หากปราศจากแผนกระตุ้นดังกล่าว
ทว่าอีกด้านหนึ่งผู้ตอบแบบสอบถามต่างมีความเคลือบแคลงต่อผลกระทบของแผนใช้จ่ายมหึมาของรัฐบาลต่อเงินในกระเป๋าของพวกเขา โดยมีเพียงร้อยละ 18 เท่านั้นที่บอกว่าแผนนี้ช่วยให้พวกเขามีความมั่งคั่งมากขึ้น ส่วนอีกร้อยละ 68 บอกว่าไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงใดๆ
นอกจากนี้ ชาวสหรัฐฯ ยังแสดงความกังวลต่อผลกระทบระยะยาวของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอันประกอบด้วยมาตรการลดภาษี 288,000 ล้านดอลลาร์ และการใช้จ่ายในโครงการต่างๆนานา รวมไปถึงซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานอีก 499,000 ล้านดอลลาร์
ในมุมมองระยะยาวที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความเห็นที่แตกแยก โดยร้อยละ 38 บอกว่าแผนกระตุ้นจะช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่อีกร้อยละ 38 เช่นกันบอกว่ามันจะทำให้หลายสิ่งหลายอย่างแย่ลง ขณะที่อีกร้อยละ 22 คาดหมายว่าคงไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม
แบบสอบถามที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชน 1,010 คน ระหว่างวันที่ 6 ถึง 9 สิงหาคม ยังพบถึงความกังวลเกี่ยวกับแนวทางการใช้จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวในความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วย
ทั้งนี้มีกว่า 3 ใน 4 --ร้อยละ 78-- บอกว่าพวกเขามีความกังวลเป็นอย่างมากหรือกังวลอยู่บ้างว่าเงินจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจะเปล่าประโยชน์