เอเอฟพี - ผ้เชี่ยวชาญสหภาพยุโรปชี้เมื่อวันพฤหัสบดี(13) มาตรการปิดโรงเรียนเพื่อป้องกันไว้ก่อนหรือเลื่อนเปิดเทอมใหม่ออกไป ไม่ได้ก่อประโยชน์ในการจัดการกับไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่จะปิดเรียนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลแต่ละประเทศในแล้วแต่กรณีไป ขณะที่อิรักออกกฎเข้มงวดสำหรับประชาชนที่ต้องการเดินทางไปแสวงบุญ ณ นครเมกกะ
โฆษกของคณะกรรมาธิการยุโรป ได้เปิดเผยรายงานของผู้เชี่ยวชาญคณะกรรมาธิการความมั่นคงสาธารณสุขสหภาพยุโรปซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 27 ประเทศ มีมติเอกฉันท์ว่า ณ ปัจจุบันนี้ “พวกเขาไม่เห็นถึงความจำเป็นในการกำหนดให้ปิดโรงเรียนจำนวนมากเพื่อป้องกันไว้ก่อน” เนื่องจากไม่ได้ก่อประโยชน์สำหรับจัดการกับไข้หวัดใหญ่ 2009
อย่างไรก็ตาม พวกเขาบอกว่ามาตรการปิดการเรียนการสอนของแต่ละโรงเรียน หลังพบการแพร่ระบาดของไว่รัสเอช1เอ็น1ในหมู่นักเรียน มีประโยชน์ในแง่ช่วยเลื่อนเวลาถ่ายโอนของไวรัสออกไป ดังนั้นมาตรการปิดโรงเรียนควรกระทำพร้อมกับมาตรการอื่นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการรวมตัวของเด็กๆในทางอื่นจะไม่เกิดขึ้น
มาตรการนี้อียูมองว่ามาตรการนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ตามโรงพยาบาลขาดแคลนมากขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นสตรี ซึ่งอาจต้องลางานเพื่อดูแลบุตรหลานที่บ้านหากโรงเรียนปิด
เดนนิส แอบบอตต์ โฆษกของคณะกรรมาธิการยุโรป บอกว่ามาตรการปิดโรงเรียนยังอาจกระทบต่อการบริการของโรงพยาบาลต่างๆ ก่อความวุ่นวายแก่ศูนย์สาธารณสุข และนอกจากนั้น จะกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างสูงด้วย
ผู้เชี่ยวชาญของสหภาพยุโรปยังได้ออกคำแนะนำด้านการเดินทางตามหลังการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แม้ว่าอียูจะไม่มีเจตนาเคลื่อนไหวออกข้อบังคับอย่างเป็นทางการหรือออกคำสั่งไปยังสายการบินหรือสนามบินต่างๆ ก็ตาม
คำแนะนำของอียู คือ ขอให้ผู้ติดเชื้อพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่หากพบว่าตนเองมีอาการป่วยขณะอยู่ในต่างประเทศ ก็ขอให้เก็บตัวอยู่ในห้องของโรงแรมและไม่ควรสัมผัสคนอื่นๆ แต่ถ้ามีอาการรุนแรงก็ขอให้ไปพบแพทย์
อย่างไรก็ตาม อียูย้ำว่านี่เป็นเพียงคำแนะนำและจะไม่มีการขัดขวางประชาชนในการเดินทางกลับบ้าน ทั้งนี้หากผู้ป่วยไข้หวัดจำเป็นต้องเดินทาง สหภาพยุโรปก็แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย
องค์การอนามัยโลกแถลงเมื่อวันพุธ(12) จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสเอช1เอ็น1 พุ่งขึ้นสู่ 1,154 คนแล้ว และพบผู้ติดเชื้อในประเทศและดินแดนต่างๆ 168 แห่ง
ในวันพฤหัสบดี(13) กองทัพสหรัฐฯ ออกมายืนยันพบนายทหารที่ประจำการในอิรักติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 67 นาย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสนี้
ขณะเดียวกัน ทางการอิรักได้ออกข้อบังคับเข้มงวดสำหรับประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในเดือนพฤศจิกายน ในความพยายามจำกัดการแพร่ระบาดไข้หวัดมรณะ
นอกจากนี้ทางการอิรัก ก็จะห้ามนักแสวงบุญเดินทางไปยังซาอุดีอาระเบีย เพื่อร่วมพิธีพิธีอุมเราะห์ ในช่วงเริ่มต้นของเทศกาลถือศีลอดหรือรอมฎอนปีนี้ระหว่างวันที่ 22 ส.ค.-19 ก.ย.
“เราจะลดจำนวนชาวอิรักที่จะเดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ ด้วยการจำกัดผู้ที่เคยไปร่วมพิธีฮัจญ์มาแล้ว นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผู้สูงวัยอายุมากกว่า 65 ปี เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี กลุ่มผู้มีโรคร้าย คนมีน้ำหนักมากและหญิงตั้งครรภ์” โฆษกรัฐบาลกล่าวในแถลงการณ์
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐมนตรีสาธารณสุขชาติอาหรับ เห็นพ้องกันในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ว่าควรจำกัดประชาชนที่จะเข้าร่วมพิธีฮัจญ์ หลังจากผู้หญิงชาวอียิปต์รายหนึ่งซึ่งเดินทางกลับมาจากซาอุดีอาระเบีย กลายเป็นผู้เสียชีวิตจากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกในตะวันออกกลางและแอฟริกา
