เอเจนซี - เกิดเหตุปะทะครั้งใหญ่ระหว่างทหารฟิลิปปินส์กับกองกำลังติดอาวุธอิสลาม ในเขตห่างไกลบนเกาะทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 45 ราย ผู้บัญชาการทหารระดับอาวุโสกล่าวในวันพฤหัสบดี (13)
สมาชิกกลุ่มติดอาวุธอย่างน้อย 22 ราย และทหาร 23 คน เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติจู่โจมการทางทหารเมื่อวานนี้ (12) ณ ฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎอาบูไซยาฟ บนเกาะบาซิลัน ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ พลจัตวารุสติโก เกอร์เรโรบอกกับผู้สื่อข่าว
“เราเริ่มปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งมีเป้าหมายโจมตีฐานฝึกสำคัญของกลุ่มอาบูไซยาฟ บนเกาะบาซิลัน แต่เราเจอกับการขัดขืนต่อต้านอย่างหนัก”
เจ้าหน้าที่อีกหลายคนกล่าวว่า การสู้รบยุติลงหลังจากยืดเยื้อนานกว่า 8 ชั่วโมง เมื่อกลุ่มกบฎล่าถอยเข้าไปในเขตป่าทีบ
พลเรือตรีอเล็กซานเดอร์ ปามา ผู้บัญชาการทหารบนเกาะบาซิลันคาดหมายว่า กลุ่มกบฎราว 40 คนน่าจะเสียชีวิต แต่พบศพเพียง 22 รายในที่เกิดเหตุ
“เป็นการต่อสู้แบบประชิดตัวมาก ทั้ง 2 ฝ่ายเกือบสู้กันแบบซึ่งหน้า” ปามาบอกกับรอยเตอร์
“สิ่งสำคัญยิ่งกว่าสำหรับเราคือ เราทำลายโรงงานผลิตระเบิดและฐานฝึกอบรมของกลุ่มอาบูไซยาฟ”
ทั้งนี้ อาบูไซยาฟ เป็นหนึ่งในหลายๆ กลุ่มติดอาวุธมุสลิมที่เล็กที่สุดแต่รุนแรงที่สุด ซึ่งต่อสู้เพื่อเรียกร้องเอกราชจากกรุงมะนิลา โดยคาดหมายกันว่าน่าจะมีแนวร่วมหัวรุนแรงราว 350 คน บนฐานที่มั่นบนเกาะบาซิลันและเกาะโจโลที่อยู่ใกล้เคียง
อาบูไซยาฟพัวพันกับกลุ่มติดอาวุธญามิอะห์ อิสลามิยะห์ เครือข่ายก่อการร้ายระดับภูมิภาค ซึ่งถูกกล่าวว่าก่อวินาศกรรมหลายครั้งในอินโดนีเซีย
กลุ่มอาบุไซยาฟ ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดหลายครั้งในฟิลิปปินส์ รวมทั้งเหตุจมเรือเฟอร์รีที่อ่าวมะนิลาในปี 2004 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 100 คน