เอเอฟพี - พอร์ตลงทุนของเทมาเส็กโฮลดิ้งส์ มีมูลค่าลดลงไปถึงกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 940,000 ล้านบาท) ณ สิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 1ปีที่แล้ว โฮชิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ) ของกองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์แห่งนี้ แถลงเมื่อวันพุธ(29)
โฮ ซึ่งเป็นภริยาของนายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงของสิงคโปร์ กล่าวว่าทางเทมาเส็กคาดการณ์ไว้ตั้งแต่การศึกษาทบทวนในปีที่แล้วว่า พอร์ตลงทุนจะต้องมีมูลค่าตกลงมาเช่นนี้
"แล้วก็จริงๆ มันออกมาเช่นนั้นและยิ่งกว่านั้นอีก" เธอกล่าวต่อการประชุมสัมมนาที่จัดโดย "สถาบันเพื่อนโยบายศึกษา"
ก่อนหน้านี้ในปีนี้ ทางการสิงคโปร์เคยแถลงว่า มูลค่าพอร์ตลงทุนโดยรวมของเทมาเส็กได้ลดลงมา 58,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ มาอยู่ที่ 127,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ นับแต่ตอนสิ้นเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2008
"การเดินทางของเทมาเส็กจะไม่ใช่ราบรื่นเสมอไปหรอก ขณะที่เราแล่นเรือไปในน่านน้ำที่มีคลื่นลมแรง เราก็น่าจะจำเป็นต้องหาที่พักหลบภัย ถ้าหากเราเห็นเมฆทะมึนกำลังเคลื่อนเข้ามา" เธอบอก
เธอกล่าวด้วยว่า การหาตัวผู้ที่จะมาสืบทอดตำแหน่งต่อจากเธอนั้นยังคงกำลังเดินหน้าต่อไป หลังจากที่ "โชคร้าย" ต้องยกเลิกแผนการแต่งตั้งนักธุรกิจอเมริกัน ชาร์ลส์ "ชิป" กู๊ดเยียร์ อดีตซีอีโอของกิจการเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ บีเอชที บิลลิตัน
หากมีการเดินหน้าตามแผน กู๊ดเยียร์ก็จะกลายเป็นชาวต่างชาติคนแรกที่มาบริหารกองทุนภาครัฐซึ่งครั้งหนึ่งเคยดำเนินงานแบบลับๆ แห่งนี้ และการประกาศข่าวแต่งตั้งเขาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ก็ได้รับคำชมเชยจากแวดวงการเงินตะวันตก โดยมองกันว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปรับเปลี่ยนเทมาเส็กให้กลายเป็นวิสาหกิจระดับโลก
"เป็นโชคร้ายที่เมื่อเร็วๆ นี้ทั้งคณะกรรมการบริหาร และ ชิป ต่างมาถึงข้อสรุปร่วมกันอย่างเป็นมิตรว่า เป็นการดีที่สุดที่จะไม่เดินหน้ากระบวนการส่งมอบอำนาจซีอีโอ (ให้แก่กู๊ดเยียร์)" โฮกล่าวกับที่ประชุมสัมมนา
"อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าเราควรจะยุติกระบวนการทบทวนหาผู้สืบทอดตำแหน่งนี้ไปเสีย เรายังจะเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้กุมบังเหียนในฐานะเป็นซีอีโอที่เทมาเส็กก็ตาม"
เทมาเส็กระบุว่า การตัดสินใจยกเลิกการแต่งตั้งกู๊ดเยียร์นั้น สืบเนื่องจากเขากับคณะกรรมการบริหารมีความแตกต่างกันในเรื่องยุทธศาสตร์
เมื่อถูกถามในที่ประชุมสัมมนา ขอให้อธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้นอีก โฮก็ตอบว่า "เรายังคงให้ความเคารพชิปเป็นอย่างสูงในเรื่องความเป็นมืออาชีพของเขาและความซื่อสัตย์ของเขา ดังนั้นข่าวลือตลกๆ ขี้ปะติ๋วทั้งหลายที่พวกคุณได้ยินได้ฟังมาเกี่ยวกับสไตล์การบริหารของเขา อะไรทั้งหมดเหล่านี้ พวกคุณควรที่โยนทิ้งไปให้หมดเลย"
เทมาเส็กยืนยันว่า ยังคงเป็นนักลงทุนระยะยาว และยังคงมุ่งเน้นที่การลงทุนในเอเชีย สืบเนื่องจากภูมิภาคนี้มีลู่ทางการเติบโตที่แข็งแกร่ง
โฮกล่าวว่า เทมาเส็กจะลงทุนประมาณ 70% ของทรัพยากรของตนในเอเชีย ซึ่งรวมถึงสิงคโปร์ด้วย โดยที่อีก 20% เตรียมไว้สำหรับการลงทุนในพวกประเทศอุตสาหกรรม และที่เหลือจะไปลงทุนในตลาดทางละตินอเมริกาและแอฟริกา
เธอบอกว่าเทมาเส็กยังคงรู้สึกสบายใจมากที่จะลงทุนในเอเชีย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกองทุนก็ได้ลงทุนในภาคธุรกิจต่าง ๆหลากหลาย ตั้งแต่สายการบิน พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติไปจนถึงผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคต่าง ๆ
โฮกล่าวว่า การเติบโตในเอเชียจะไม่ใช่มีลักษณะเป็นเส้นตรง โดยที่คาดหมายได้ว่าต้องมีการสะดุดมีความขรุขระในระหว่างทาง แต่ศักยภาพระยะยาวไกลจะยังคงแข็งแกร่ง และเนื่องจากเอเชียยังคงรักษาแนวโน้มแห่งการพัฒนาของตนไว้ได้อย่างต่อเนื่อง การลงทุนที่นี่จึงมีความเสี่ยงน้อย
