เอเอฟพี - พนักงานท้องถิ่นหลายพันคน ออกมาชุมนุมประท้วงตามเมืองใหญ่ๆ ในแอฟริกาใต้ เพื่อขอค่าแรงเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 โดยระบุว่า เป็นเพราะค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น เพิ่มแรงกดดันให้แก่รัฐบาลของประธานาธิบดี จาคอบ ซุมา ซึ่งเผชิญกับการประท้วงมาแล้วหลายครั้ง
สหภาพพนักงานเทศบาลเป็นตัวแทนของพนักงานระดับท้องถิ่นมากกว่า 150,000 คน และเรียกร้องให้มีการหยุดงานประท้วง โดยมีคนหลายพันคนเดินขบวนในกรุงโยฮันเนสเบิร์ก เมืองเคปทาวน์ และเมืองใหญ่อีกหลายแห่ง
กลุ่มผู้ประท้วงได้เรียกร้องขอค่าแรงเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 หลังจากอัตราเงินเฟ้อทะยานขึ้นสูงเป็นร้อยละ 13.7 เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ราคาน้ำมันและอาหารก็พุ่งสูงขึ้นมาก แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงเหลือร้อยละ 8.0 แล้วก็ตาม
ในกรุงโยฮันเนสเบิร์ก พนักงานราว 2,000 คน สวมเสื้อสีแดง ซึ่งเป็นชุดของสหภาพพนักงานเทศบาล (SAMWU) ได้เดินขบวนไปตามท้องถนน ก่อนจะยื่นหนังสือเรียกร้องต่อนายกเทศมนตรี ขณะที่มีการตัดการจ่ายกระแสไฟฟ้าไปในเมือง เพื่อเป็นการประท้วงอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ รถเมล์ คลินิก สวนสาธารณะ และหอสมุด ได้รับผลกระทบจากการประท้วงหยุดงานด้วย
สหภาพพนักงานเทศบาลยังเรียกร้องเงินช่วยเหลือสำหรับครัวเรือน 300,000 แรนด์ หรือ 38,664 สำหรับการซื้อบ้าน และ 3,000 แรนด์ สำหรับคนที่ต้องเช่าบ้านอยู่ โดยก่อนหน้านี้ ทางการเสนอให้เพิ่มค่าแรงขึ้นร้อยละ 11.5 แต่สหภาพไม่ยอมรับ โดยระบุว่า ไม่ตอบสนองกับสภาพเศรษฐกิจถดถอย
แอฟริกาใต้เกิดการประท้วงหยุดงานบ่อยครั้งในช่วงฤดูหนาวช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงการต่อสัญญาจ้างงานใหม่ในช่วงกลางปี แพทย์และคนงานก่อสร้างสนามกีฬาสำหรับฟุตบอลโลกก็ก่อหวอดประท้วงเมื่อ 2 เดือนก่อน
เดิร์ก คอตเซ นักวิเคราห์การเมืองจากมหาวิทยาลัยยูนิเวอร์ซิตี ออฟ เซาท์แอฟริกา กล่าวว่า คนงานจะประท้วงระหว่างเเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นช่วงแห่งการเจรจา ขณะที่สัปดาห์ที่แล้วเกิดการประท้วงการทำงานกันอย่างเอื่อยเฉื่อยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในย่านของคนจน
ด้าน ประธานาธิบดี ซุมา ให้สัญญาว่าจะแก้ปัญหาความยากจนในแอฟริกาให้ได้ภายใน 15 ปี นับจากการสิ้นสุดของการแบ่งแยกสีผิว ทั้งนี้ ชาวแอฟริกาใต้ร้อยละ 43 มีรายได้ไม่ถึงวันละ 2 ดอลลาร์
“การเลือกตั้งสร้างความหวังต่างๆ ขึ้นว่า จะมีความพยายามใหม่ในการปรับปรุงคุณภาพของรัฐบาลท้องถิ่น” คอตเซ กล่าว