เอเจนซี - ฟิเดล คาสโตร อดีตผู้นำคิวบา ระบุว่า สหรัฐฯสนับสนุนกลุ่มผู้นำการก่อรัฐประหารในฮอนดูรัส และการเจรจาที่คอสตาริกาเพื่อหาทางออกของวิกฤติการเมืองซึ่งสหรัฐฯผลักกดันนั้น ก็เป็นเพียงแผนการที่หวังจะทำให้ผู้ก่อรัฐประหารอยู่ในอำนาจต่อไป
บทความของคาสโตร ซึ่งตีพิมพ์ลงอินเทอร์เน็ตเมื่อวันพฤหัสบดี (16) ระบุว่า การเจรจาเป็นยุทธวิธีเพื่อทำให้เสียงคัดค้านการก่อรัฐประหารโค่นอำนาจประธานาธิบดีมานูเอล เซลายาของฮอนดูรัสหมดไป
คาสโตร ระบุว่า ผลงานของสหรัฐฯไม่ได้เพิ่มโอกาสของสันติภาพ แต่กลับเป็นไปในทางตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง และจะทำให้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงขอให้สหรัฐฯหยุดแทรกแทรง
สหรัฐฯประณามกองทัพฮอนดูรัสที่ยึดอำนาจ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา กล่าวว่าประธานาธิบดี เซลายา ที่ได้รับเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยควรได้อำนาจคืน โดยสหรัฐฯได้เสนอให้จัดการเจรจาที่คอสตาริกาเพื่อหาทางออกอย่างสันติจากวิกฤตการทางการเมืองนี้
คาสโตร ชี้ว่า เอกอัคราชทูตสหรัฐฯในฮอนดูรัส และจากประเทศอื่นในทวีปอเมริกากลางรู้ตั้งแต่แรกว่าจะมีรัฐประหารเกิดขึ้นและให้ความสนับสนุน และกล่าวย้ำว่า ฐานทัพสหรัฐฯในฮอนดูรัสก็ช่วยเหลือการก่อรัฐประหารนั้นด้วย
ทูตซึ่งเป็นตัวแทนของเซลายา และ โรแบร์โต มิเชเล็ตติ ประธานาธิบดีชั่วคราวของฮอนดูรัสในขณะนี้ ได้พบกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีประธานาธิบดีออสการ์ อาเรียสของคอสตาริกาเป็นตัวกลางในหารเจรจา
โลกพุ่งความสนใจมายังฮอนดูรัส หลังเกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน โดย มิเชเล็ตติกล่าวว่า เซลายาถูกถอดออกจากอำนาจอย่างชอบธรรม เพราะเขาละเมิดรัฐธรรมนูญ หลังจากพยายามยกเลิกกฎหมายที่ขัดขวางการเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สองของเขา
ด้าน เซลายา กล่าวว่า เขาถูกโค่นโดยกลุ่มชนชั้นนำจงใจยึดอำนาจ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเขาทำให้พวกชนชั้นนำและกองทัพไม่พอใจจากการสร้างพันธมิตรของตัวเองขึ้นด้วยการคบค้ากับพันธมิตรฝ่ายซ้าย คือ ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวช แห่งเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นมิตรกับคาสโตรด้วย