เอเอฟพี - ประธานาธิบดีมานูเอล เซลายาของฮอนดูรัสเผย เขาจะเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ก่อนกลับประเทศในวันพฤหัสบดี (2) นี้ หลังเกิดการรัฐประหารที่ขับเขาออกจากตำแหน่ง
“ผมจะเดินทางไปกรุงวอชิงตัน และจากนั้นจะกลับไปเมืองเตกูซิกัลปา ซึ่งประชาชนและทหารรอการกลับไปของประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกโดยประชาชน” เซลายากล่าวในการประชุมฉุกเฉินผู้นำละตินอเมริกา และแคริบเบียน ในเมืองหลวงของนิการากัว
เซลายา ซึ่งถูกทหารฮอนดูรัสปลุกขึ้นมาจากที่พักในทำเนียบประธานาธิบดีในเช้าวันอาทิตย์ (28) และพาเขาขึ้นเครื่องบินส่งไปคอสตาริกา หลังเกิดรัฐประหารในอเมริกากลางเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี กล่าวว่า เขาจะแจ้งที่ประชุมสหประชาชาติในนิวยอร์ก เพื่อประท้วงการล้มอำนาจของเขา ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังกรุงวอชิงตันในวันพุธ (1) แล้วจึงกลับประเทศ
เขายังประกาศก่อนการประชุมผู้นำ 23 ประเทศในภูมิภาค ซึ่งประณามการรัฐประหารครั้งนี้อย่างเต็มที่ว่า “ผมจะไปเตกูซิกัลปาในวันพฤหัสบดี ผมได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี และผมจะดำรงตำแหน่งให้ครบวาระ 4 ปีด้วย”
“ผมจะกลับไปอย่างสมัครใจด้วยความคุ้มครองเลือดของพระคริสต์ เพื่อพระเจ้า และเพื่อประชาชนของผม” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม เซลายา วัย 57 ปี ไม่ได้เปิดเผยกำหนดการการเยือนเมืองหลวงของสหรัฐฯ แต่อย่างใด และไม่ได้ระบุว่าเขาจะเข้าพบเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามาหรือไม่
ขณะร่วมประชุมในเมืองมานากัว เซลายาแสดงความยินดี ที่ได้รับแรงสนับสนุนอย่างท้วมท้นจากทั่วโลก โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ
ส่วนโอบามาเองก็ได้ประกาศอย่างแข็งกร้าวต่อผู้ก่อการรัฐประหารในฮอนดูรัสว่า “เราเชื่อว่าการรัฐประหารนั้นผิดกฎหมาย และประธานาธิบดีเซลายายังเป็นประธานาธิบดีของฮอนดูรัสต่อไป”
ด้านบรรยากาศในกรุงเตกูซิกัลปาของฮอนดูรัสนั้น มีผู้ออกมาประท้วงราว 1,500 คน หลายคนสวมหน้ากาก ถือไม้ และเผายาง เผชิญหน้ากับกองกำลังรักษาความปลอดภัยหน้าประตูทำเนียบประธานาธิบดี เจ้าหน้าที่โยนกระป๋องแก๊สน้ำตาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์เพื่อสลายฝูงชน ผู้ประท้วงบางคนทุบทำลายหน้าต่างร้านอาหารหลายแห่ง และมีผู้ถูกจับกุมยี่สิบกว่าคน