เอเอฟพี/เทเลกราฟ - วัยรุ่นชาวอังกฤษ “กลับมาจากความตาย” แล้ว เมื่อนักไต่เขา 2 คนพบเขาด้วยความบังอิญในป่ารกชัฏของออสเตรเลีย หลังจากเขาหายไปในป่านานถึง 12 วัน เด็กหนุ่มเผยว่า ประทังชีวิตด้วยลูกเบอร์รี่ และยามค่ำคืนก็ใช้เสื้อแจ๊กเก็ตห่มกาย
เจมี่ นีล วัย 19 ปี เริ่มออกไปเดินป่าตามเทือกเขาบลูเมาเทน ทางตะวันตกของเมืองซิดนีย์เพียงลำพัง ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม และหายตัวไป จนนักไต่เขา 2 คน พบเขาเข้าด้วยความบังเอิญ ซึ่งเขาอยู่ในสภาพหมดแรงและขาดน้ำ ภาพจากโทรทัศน์แสดงให้เห็นว่า นีล มีหนาวเครา และดูตื่นๆ แต่ก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ ขณะที่เขาเดินทางมาถึงโรงพยาบาลคาทุมบาด้วยเสื้อของเครื่องแบบตำรวจเพื่อให้ความอบอุ่น
ริชาร์ด แคส พ่อของนีล ซึ่งบินมาจากอังกฤษเพื่อร่วมการค้นหาบุตรชาย เผยว่า เขากำลังจะขึ้นเครื่องบินกลับ เมื่อได้ทราบข่าว “ผมอยู่ที่สนามบินแล้วเมื่อตอนที่ทราบข่าว ผมตะโกนร้องสุดเสียงว่า พบตัวลูกแล้ว ผมถูกห้อมล้อมด้วยผู้หญิงชาวจีนและไทยที่กำลังจะขึ้นเครื่อง”
“เขาต้องเป็นวัยรุ่นเพียงคนเดียวในโลกที่ออกไปเดินป่า และทิ้งมือถือไว้”
แคส เผยว่า บุตรชายของเขากินลูกเบอร์รี่และพืชในป่า ซึ่งมีรสชาติคล้ายกับผักกาดเพื่อประทังชีวิต นอนขดในเสื้อแจ๊กเก็ตตอนกลางคืน และโบกเสื้อเมื่อเห็นเฮลิคอปเตอร์ค้นหาผ่านมา
แคส เล่าว่า เขาเลิกค้นหาลูกแล้ว และเขาได้ทำป้ายสลักชื่อของนีล และฝังดอกกุหลาบแดง “แด่อังกฤษ” ในพิธีไว้อาลัยให้ลูกแล้ว เพราะไม่คิดว่าลูกชายจะมีชีวิตรอดกลับมาได้
“ทุกครั้งที่เฮลิคอปเตอร์บินผ่านมา เขาก็ได้แต่กังวล เขาคิดว่าเขาคงกำลังจะตาย เขาหวาดกลัว” พ่อของเด็กหนุ่มเผย
ด้าน จีน แม่ของนีล เผยว่า เธอไม่เคยหมดหวัง เธอบอกกับสกายนิวส์จากทางเหนือของกรุงลอนดอน หลังจากได้คุยกับลูกชายว่า “เขาแค่พูดว่า หวัดดีครับแม่ เขาแทบจะน้ำตาไหล เขาบอกว่าเขาคิดว่าจะไม่ได้เจอหน้าฉันอีกแล้ว ดีเหลือเกินที่ได้ยินเสียงฉันอีก ฉันบอกลูกว่า อย่าทิ้งแม่ไปง่ายๆ อย่างนั้น”
การค้นหาเริ่มขึ้นจากบ้านพักคาทุมบาในเขตปราสาทหินบนหุบเขาเจไมสัน ซึ่งเป็นที่ที่มีคนเห็นเขาล่าสุด โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ สุนัข ตำรวจ นักดับเพลิง นายพราน ตลอดจนอาสาสมัคร
พื้นที่ป่าทึบของเทือกเขาบลูเมาเทน เป็นที่นิยมมากสำหรับคนเดินป่า แต่มีอันตรายถึงชีวิต นักไต่เขาวัย 17 ปี คนหนึ่งเสียชีวิต หลังจากหลงป่าในช่วงร้อนที่สุดของฤดูร้อนเมื่อปี 2006
พ่อของเด็กหนุ่มผู้รอดชีวิต กล่าวว่า คงจะไม่ฆ่าลูก แต่จะเตะก้นเขา หลังจากเสียเงินไปหลายล้านสำหรับการค้นหา “เวลาหมดไป ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะแค่เขาไปเดินป่า แต่ไม่เอาโทรศัพท์ไปแค่นั้น” และเขาเสริมว่า จะทบทวนแผนการไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และรัสเซีย ก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยของลูกชายอีกครั้ง
