เอเจนซี/เอเอฟพี-ที่ประชุมสุดยอดกลุ่ม 8 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก(จี8) เมื่อวันพุธ(8) ที่เมืองลากีลาของอิตาลี ระบุภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังมีความเปราะบางและอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของประเทศต่างๆ จากภาวะถดถอย
การประชุมวันแรกจากทั้งหมด3 วันเป็นการหารือกันเองของสมาชิกทั้ง 8 ชาติประกอบด้วย สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา รัสเซีย และเจ้าภาพอิตาลี โดยพุ่งเป้าที่ประเด็นเศรษฐกิจ ตลอดจนปัญหาร้อนทางด้านการเมือง
นักวิเคราะห์มองว่าข้อสรุปจากการประชุมวันแรก ไม่ต่างไปจากถ้อยแถลงของเวทีประชุมรัฐมนตรีคลังจี8 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้กลุ่มจี8 ถูกมองว่าหมดความสามารถควบคุมเศรษฐกิจโลกท่ามกลางบทบาทที่เพิ่มขึ้นทุกขณะของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังไม่มีการเสนอมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมออกมา มีเพียงการย้ำจุดยืนว่าประเทศต่างๆ ยังต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างแท้จริงเท่านั้น
ส่วนการหารือประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะปัญหาโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน นิโกลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเผยหลังการประชุมว่า กลุ่ม จี8จะให้โอกาสอิหร่านตัดสินใจเข้าร่วมเจรจาแก้ปัญหานิวเคลียร์ถึงเดือนกันยายนนี้ ก่อนจะมีการตัดสินใจคว่ำบาตรอิหร่านระหว่างการประชุมจี20 ที่เมืองพิตส์เบิร์ก มลรัฐเพนซิลเวเนีย ของสหรัฐฯ วันที่ 24-25 กันยายนนี้
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมจี8คราวนี้เห็นชอบให้ควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ไม่ให้สูงขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียสจากระดับก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมภายในปี 2050 พร้อมกันนี้ ยังเห็นชอบให้ลดการปล่อยพลังงานคาร์บอนร้อยละ 80 ภายในปี 2050 สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว และร้อยละ 50 ภายในปี 2050 สำหรับประเทศกำลังพัฒนา
ด้านกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ 5 ชาติหรือกลุ่ม"จี5"ที่ประกอบด้วย บราซิล จีน อินเดีย เม็กซิโก และแอฟริกาใต้ร่วมกันแถลงภายหลังหารือกันเองเมื่อวันพุธ(8)เช่นกัน โดยเรียกร้องให้ประเทศพัฒนาแล้วเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยระบุว่าประเทศพัฒนาแล้วควรลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 40 ของระดับปี 1990 ภายในปี 2020 และไม่ควรโยนภาระในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกให้ชาติกำลังพัฒนาแต่เพียงฝ่ายเดียว
คำแถลงกลุ่มจี5ยังเรียกร้องให้ประเทศพัฒนาแล้วแสดงความรับผิดชอบในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาต่างได้รับผลจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง ทั้งที่ปัญหาดังกล่าวมีสาเหตุจากความผิดพลาดของประเทศร่ำรวยเอง
โดย มานโมหัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีอินเดียระบุว่า ประเทศร่ำรวยจำเป็นต้องทำลายอุปสรรคทางการค้าประเภทต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจโลกเดินหน้าต่อไปและต้องเปิดกว้างทางการค้าแก่ประเทศกำลังพัฒนา นอกจากนั้น ยังเรียกร้องให้ชาติมหาอำนาจลด "ความเห็นแก่ตัว" หากหวังให้การเจรจาการค้าโลกรอบโดฮาได้ข้อสรุปในปี 2010
ล่าสุดที่ประชุมร่วมของกลุ่มจี8 และจี5เมื่อวานนี้ (9)ได้เห็นชอบใน 3 ประเด็นสำคัญ คือกลุ่มประเทศจี8 และจี5 จะสนับสนุนการสร้างระบบการเงินโลกที่มีเสถียรภาพ โดยเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ละเว้นการแข่งขันกันลดค่าเงินของตน ที่ก่อให้เกิดความได้เปรียบทางเศรษฐกิจแบบไม่เป็นธรรม การผลักดันการค้าโลกรอบโดฮาให้มีความคืบหน้า และการให้รัฐมนตรีด้านการค้าของแต่ละประเทศมาประชุมร่วมกันอีกครั้งก่อนการประชุมสุดยอดกลุ่มจี20 ที่พิตส์เบิร์ก
อย่างไรก็ตาม ไต้ปิงกว๋อ มุขมนตรีแห่งรัฐของจีน ซึ่งเป็นผู้แทนสูงสุดของจีนในการประชุมสุดยอดร่วมกับกลุ่มจี8 ครั้งนี้ แถลงหลังการประชุมว่า จีนรู้สึกผิดหวังที่กลุ่มจี8 ยังไม่มีการพิจารณาอย่างจริงจังให้ระบบการเงินโลกเลิกผูกติดกับเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ เพียงสกุลเดียว