เอเอฟพี – มหาเศรษฐีจากแดนลอดช่องขอความช่วยเหลือในการตามหาภรรยา และลูกชาย ที่จากกันไปนาน ในมาเลเซีย แต่กลับได้การตอบรับจากผู้นำคนจำนวนมากที่อ้างว่าเป็นญาติของเขา
ยักเองไว วัย 62 ปี ซึ่งทำธุรกิจยานยนต์ในบรูไน จนร่ำรวยมหาศาล โด่งดังบนหน้าหนังสือพิมพ์ของมาเลเซียตลอดสัปดาห์นี้ ขณะที่เขาเร่งตามหาภรรยาคนแรก กอยซวนอิม และ อาห์เต็ก ลูกชาย
หนังสือพิมพ์สตาร์เดลี รายงานว่า เขาพบภรรยาครั้งสุดท้ายในปี 1972 เมื่อเธอตั้งท้องอาห์เต็ก ซึ่งเธอตัดสินใจออกจากบ้านในสิงคโปร์ ไปอยู่กับครอบครัวของเธอในรัฐปีนัง ของมาเลเซีย โดยทิ้งลูกชายวัย 2 ขวบอีกคนหนึ่งไว้
ยัก เดินทางไปเยี่ยมพวกเธอ 2-3 ครั้ง แต่หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อกัน และลูกชายคนโตของเขาก็ล้มป่วย และเสียชีวิตลงในปี 1983
“ผมได้รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดในการสูญเสียลูกชายไปคนหนึ่งแล้ว การที่ไม่รู้ว่าลูกชายอีกคนกำลังเป็นอยู่อย่างไรนั่นยิ่งเจ็บปวดเหลื่อเกิน ผมไม่คิดว่าภรรยาคนแรกของผมจะรู้ด้วยซ้ำว่าลูกคนโตของเราตายแล้ว” เขากล่าวกับเดอะสตาร์
ยัก ซึ่งแต่งงานใหม่ และมีลูกสาว วัย 25 ปีอีก 1 คน ระบุว่า “ไม่มีวันไหนที่ผ่านไปแล้วผมไม่คิดถึงพวกเขา และสงสัยว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง มันผ่านมานานหลายปี แต่ผมจะไม่อยู่เฉยจนกว่าจะพบพวกเขา”
ด้านสมาคมชาวจีนมาเลย์ ซึ่งเผยแพร่คำขอร้องของยักออกไป ชี้แจงว่า พวกเขาได้รับโทรศัพท์จำนวนมหาศาล ที่โทร.มาอ้างว่าเป็นครอบครัวของมหาเศรษฐีรายนี้ แต่ยังไม่มีใครที่ถูกตรวจสอบเลย
ยักเองไว วัย 62 ปี ซึ่งทำธุรกิจยานยนต์ในบรูไน จนร่ำรวยมหาศาล โด่งดังบนหน้าหนังสือพิมพ์ของมาเลเซียตลอดสัปดาห์นี้ ขณะที่เขาเร่งตามหาภรรยาคนแรก กอยซวนอิม และ อาห์เต็ก ลูกชาย
หนังสือพิมพ์สตาร์เดลี รายงานว่า เขาพบภรรยาครั้งสุดท้ายในปี 1972 เมื่อเธอตั้งท้องอาห์เต็ก ซึ่งเธอตัดสินใจออกจากบ้านในสิงคโปร์ ไปอยู่กับครอบครัวของเธอในรัฐปีนัง ของมาเลเซีย โดยทิ้งลูกชายวัย 2 ขวบอีกคนหนึ่งไว้
ยัก เดินทางไปเยี่ยมพวกเธอ 2-3 ครั้ง แต่หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อกัน และลูกชายคนโตของเขาก็ล้มป่วย และเสียชีวิตลงในปี 1983
“ผมได้รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดในการสูญเสียลูกชายไปคนหนึ่งแล้ว การที่ไม่รู้ว่าลูกชายอีกคนกำลังเป็นอยู่อย่างไรนั่นยิ่งเจ็บปวดเหลื่อเกิน ผมไม่คิดว่าภรรยาคนแรกของผมจะรู้ด้วยซ้ำว่าลูกคนโตของเราตายแล้ว” เขากล่าวกับเดอะสตาร์
ยัก ซึ่งแต่งงานใหม่ และมีลูกสาว วัย 25 ปีอีก 1 คน ระบุว่า “ไม่มีวันไหนที่ผ่านไปแล้วผมไม่คิดถึงพวกเขา และสงสัยว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง มันผ่านมานานหลายปี แต่ผมจะไม่อยู่เฉยจนกว่าจะพบพวกเขา”
ด้านสมาคมชาวจีนมาเลย์ ซึ่งเผยแพร่คำขอร้องของยักออกไป ชี้แจงว่า พวกเขาได้รับโทรศัพท์จำนวนมหาศาล ที่โทร.มาอ้างว่าเป็นครอบครัวของมหาเศรษฐีรายนี้ แต่ยังไม่มีใครที่ถูกตรวจสอบเลย