เอเอฟพี - รถทหารของฮอนดูรัสเคลื่อนย้ายมาปิดกั้นรันเวย์ เพื่อไม่ให้เครื่องบินของประธานาธิบดีมานูเอล เซลายา ลงจอด ไม่นานหลังจากที่ทหารปะทะกับกลุ่มผู้สนับสนุนผู้นำประเทศ ซึ่งถูกรัฐประหารจนต้องลี้ภัยไปต่างแดน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ขณะที่เครื่องบินของเซลายาต้องหันหัวไปลงจอดที่กรุงมานากัวของนิการากัวแทน
เซลายาพยายามจะกลับเข้าประเทศ 1 สัปดาห์หลังถูกโค่นลงจากตำแหน่ง ขณะที่ความตึงเครียดมาถึงจุดแตกหัก เมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนตัวเขาจำนวนหลายหมื่นคนมารวมตัวกันที่สนามบิน ซึ่งมีกำลังทหารปิดกั้นอยู่อย่างหนาแน่น โดยทหารได้ยิงแก๊สน้ำตา และใช้ปืนยิงผู้ประท้วง ที่พยายามฝ่าเข้าไปในสนามบิน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 2 คน
รถทหารเกือบ 10 คัน จากกองทัพเดียวกับที่ขับไล่เซลายาในชุดนอนออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ได้เข้าไปปิดกั้นรันเวย์ ขณะที่เครื่องบินของเซลายาต้องบินวนอยู่เพื่อรอลงจอด แต่ไม่นานหลังจากนั้น เครื่องบินของเขาก็ได้หันหัวกลับไปลงจอดที่นิการากัว เจ้าหน้าที่ในเอลซัลวาดอร์เผย โดยเสริมว่าเขามีกำหนดเดินทางต่อไปยังซานซัลวาดอร์ภายหลัง
เซลายาได้กล่าวจากบนเครื่องบินผ่านสถานีโทรทัศน์เทเลเซอร์ของเวเนซุเอลา ซึ่งนำมาออกอากาศอีกครั้งทางซีเอ็นเอ็น เป็นภาษาสเปนว่า “ผมกำลังทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ หากผมมีร่มชูชีพ ผมจะกระโดดออกจากเครื่องบินทันที”
นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า เขาขอประณามประเทศมหาอำนาจที่มีบทบาทต่อสถานการณ์ในฮอนดูรัส โดยเฉพาะสหรัฐฯ
เซลายามีกำหนดเข้าร่วมหารือกับประธานาธิบดีอาร์เจนตินา เอกวาดอร์ และปารากวัย ในเอลซัลวาดอร์ พร้อมกับโฆเซ มิเกล อินซัลซา หัวหน้าองค์การรัฐอเมริกัน หรือโอเอเอส ซึ่งระงับสมาชิกภาพของฮอนดูรัส ในการประชุมฉุกเฉินในคืนวันเสาร์ (4) ที่ผ่านมา หลังจากรักษาการประธานาธิบดีปฏิเสธที่คืนอำนาจให้แก่เซลายา
ด้าน โรเบอร์โต มิเชลเลตติ ประธานาธิบดีชั่วคราวของฮอนดูรัส ยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้กับสถานการณ์ในประเทศ โดยการกล่าวหานิการากัวว่า ระดมกำลังทหารบริเวณชายแดนระหว่างประเทศ ซึ่งกองทัพนิการากัวได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาในทันที
นอกจากนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ถูกโดดเดี่ยวมากขึ้น คณะผู้นำชั่วคราวของฮอนดูรัสได้เสนอการเจรจากับโอเอเอสอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่มิเชลเลตติยังยืนกรานไม่มีใครจะกดดันเขาให้ลงจากตำแหน่งได้ และเขาก็มีอำนาจในการปกครองตามรัฐธรรมนูญ