เอเอฟพี - อินโดนีเซีย มีแผนขอให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศซึ่งพบการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 สวมหน้ากากอนามัยอย่างน้อย 3 วัน ด้านเนปาล มอริเชียสและเคนยา ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรกของประเทศแล้ว ขณะที่ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 70,000 คน
ในอินโดนีเซีย เพิ่งพบผู้ติดเชื้อไวรัสเอช1เอ็น1 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในจำนวน 8 รายที่พบ มี 4 รายที่เป็นชาวต่างชาติ
"นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศที่มีเชื้อโรคควรสวมหน้ากาก มันเป็นมาตรการป้องกันไว้ก่อน เรากำลังพยายามหาทางป้องกันไม่ให้มีการแพร่เชื้อจากคนสู่คนของไวรัส" ซิตี ฟาดิลาห์ สุปารี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขบอกกับเอเอฟพี
"เราจะมอบหน้าหากให้กับนักท่องเที่ยว เมื่อพวกเขาเดินทางถึงสนามบิน และขอให้สวมมันไว้เป็นเวลา 3 วัน" อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีรายนี้บอกว่าทางรัฐบาลไม่ได้มีเจตนาบังคับนักท่องเที่ยวที่อาจเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่ภาพลักษณ์ด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ
"จะไม่มีการลงโทษถ้านักท่องเที่ยวไม่สวมมัน คุณไม่สามารถหวังให้คนสวมหน้ากากเวลาเล่นน้ำได้" สุปารี กล่าว พร้อมระบุว่าหน้ากากจะถูกแจกจ่ายแก่นักท่องเที่ยวอย่างเร็วที่สุด
คำแถลงของเธอมีขึ้นหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อหารือถึงการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์2009ในอินโดนีเซีย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สุปารี กล่าวว่าเธอมีความกังวลอย่างยิ่งต่อนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ซึ่งนิยมเดินทางมาพักผ่อนที่เกาะบาหลี โดยปีที่ผ่านมามีชาวออสซีที่มาเยือนเกาะแห่งนี้มากกว่า 300,000 คน
ทั้งนี้ออสเตรเลียเป็นชาติในแถบเอเชีย-แปซิฟิก ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสเอช1เอ็น1 มากที่สุด โดยมีผู้ติดเชื้อเกือบ 4,000 คน
ด้านกระทรวงสาธารณสุขเนปาลเมื่อวันจันทร์(29) ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 รายแรกของประเทศ โดยเป็นสมาชิกใน 3 ครอบครัวที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาและกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด
ขณะที่มอริเชียส ก็พบผู้ติดเชื้อรายแรกของประเทศเช่นกัน โดยเป็นนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมาจากอาร์เจนตินา นอกจากนี้แล้ว เคนยา ก็เป็นอีกชาติที่ออกมายืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันจันทร์(29)
อนึ่งจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกแล้ว70 ,893 ราย ในจำนวนนั้นมีผู้เสียชีวิต 311 คน
