เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย เผยว่า สตรีวัย 26 ปีจากเมืองเพิร์ธที่ติดเชื้อหวัดมรณะ เสียชีวิตในห้องไอซียู เมื่อกลางดึกวันศุกร์ (26) ที่ผ่านมา หลังจากมีอาการป่วยหนัก ประกอบกับโรคอื่นๆ นับเป็นผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รายที่ 5 ในออสเตรเลีย ขณะที่ กัมพูชา พบผู้ติดเชื้อรายแรกภายในประเทศวันนี้ (27)
ผู้ป่วยทั้งหมด 5 คนเสียชีวิตในออสเตรเลีย หลังจากติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ อย่างไรก็ตาม พวกเขามีอาการป่วยหนักจากโรคอื่นๆ มาก่อนอยู่แล้ว ดังนั้น แพทย์จึงพยายามใช้ความระมัดระวังที่จะระบุสาเหตุการตาย ว่า มาจากเชื้อไวรัส เอช1เอ็น1 โดยในขณะนี้ยังมีเด็กอีก 2 คนที่อยู่ในห้องไอซียูเนื่องจากติดเชื้อไวรัส เอช1เอ็น1 รวมถึงเด็กหญิงวัย 5 ขวบที่ไม่ได้ป่วยด้วยโรคอื่น
สำหรับผู้ติดเชื้อล่าสุดในออสเตรเลียอยู่ที่ 3,519 รายจากข้อมูลล่าสุดในวันนี้ (27) ขณะที่กลุ่มนักเรียนจากรัฐวิคตอเรีย 15 คนที่เดินทางไปทัศนศึกษาในประเทศจีนกำลังถูกกักบริวเณที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากเชื่อว่าอาจติดไวรัส เอช1เอ็น1 หลังจาก จิลล์ เฮียลี ครูใหญ่ของโรงเรียนนี้ เผยว่า มีผู้โดยสารบนเครื่องบินเที่ยวเดียวกับกลุ่มนักเรียนติดเชื้อ ดังนั้น เด็กนักเรียนต้องถูกกักตัวไว้เพื่อป้องกันไว้ก่อน
ด้าน มอม บุญเฮง รัฐมนตรีสาธารณสุขกัมพูชา ประกาศพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ภายในประเทศรายแรกวันนี้ หลังจากพบการติดเชื้อรายแรกในหมู่นักเรียนอเมริกันที่เดินทางไปกัมพูชาเมื่อหลายวันก่อน
ผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช1เอ็น1 ในประเทศรายแรกดังกล่าวเป็นคนสัญชาติกัมพูชาคนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบนักเดินทางชาวฟิลิปปินส์ติดเชื้ออีก 1 คน ขณะนี้ผู้ป่วยทั้งสองคนได้รับการรักษาในโรงพยาบาล และเริ่มมีอาการดีขึ้น ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศกัมพูชาเพิ่มเป็น 6 คน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชากำลังทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มอีก
ทั้งนี้ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดแล้วใน 113 ประเทศ ตามรายงานล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก เมื่อวันศุกร์โดยมีผู้ติดเชื้อแล้ว 59,814 คน เสียชีวิต 263 คน ซึ่งในชิลีพบตัวเลขผู้ติดเชื้อกระโดดขึ้นมากที่สุด 871 ราย รวมทั้งสิ้น 5,186, ราย รวมเสียชีวิต 7 ราย ตามมาด้วยอังกฤษที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 692 ราย เป็น 3,597 ราย รวมเสียชีวิตด้วยอีก 1 ราย
ด้านยอดผู้เสียชีวิตในอาร์เจนตินา เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าจาก 7 รายเป็น 21 ราย ขณะที่องค์การอนามัยโลกได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตรายแรกในประเทศฮอนดูรัสแล้ว ส่วนใน เม็กซิโก ต้นตอการแพร่ระบาดพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเป็นทั้งสิ้น 116 ราย
