เอเอฟพี – เหตุระเบิดรถบรรทุกใกล้เมืองเคอร์คุก ทางตอนเหนือของอิรัก ในวันเสาร์ (20) ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 72 คน นับเป็นเหตุโจมตีนองเลือดครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 16 เดือน
การโจมตีในวันเสาร์ (20) ที่เมืองตอซา คาร์มาตู ซึ่งเป็นเมืองของชาวเติร์ก นิกายชีอะห์ เกิดขึ้นเพียง 10 ก่อนเส้นตายถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากหลายๆ เมืองในอิรัก ตามข้อตกลงด้านความมั่นคงระหว่างรัฐบาลอิรัก แลสหรัฐฯ
ซาร์ฮัด กอดีร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง รอบนอกเมืองเคอร์คุกเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดในตอซา วานนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 72 รายแล้ว ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 200 คน
ด้านอิบรอฮิม โมฮัมหมัด จัสซิม แพทย์ประจำมัสยิดในเมืองเคอร์คุก ยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าว โดยเสริมว่า ยอดผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากปฏิบัติการค้นหายังไม่สิ้นสุด
สำหรับการโจมตี ซึ่งใช้รถบรรทุกระเบิดหนักราว 1 ตัน สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนหลายสิบหลังในบริเวณใกล้เคียง โดยหลายคนเสียชีวิตจากการถูกบ้านพังถล่มลงมาทับนั้น น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มอัลกออิดะห์
ขณะที่นายกรัฐมนตรีนูริ อัลมาลิกีกล่าวว่า “อาชญากรรมที่น่ารังเกียจนี้เป็นความพยายามเพื่อทำลายความมั่นคง และเสถียรภาพ รวมทั้งกระจายความไม่ไว้วางใจต่อกองกำลังของอิรัก โดยกองกำลังของเราจะจับผู้ก่ออาชญากรรมในตอซา คาร์มาตูครั้งนี้ให้ได้ และนำตัวมาพิพากษา”
เหตุระเบิดในวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นครั้งร้ายแรงที่สุด นับตั้งแต่หญิงเสียจริต 2 คนถูกกลุ่มอัลกออิดะห์ใช้เป็นเครื่องมือในการก่อเหตุระเบิดตลาดสัตว์เลี้ยงกลางกรุงแบกแดด 2 ครั้งซ้อน เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ ปี 2008 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 98 ราย
ทั้งนี้ การโจมตีในเมืองตอซามีขึ้นก่อนกำหนดถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากอิรักในวันที่ 30 มิถุนายน ล่วงหน้าการถอนทัพอย่างสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2011
