เอเจนซี/เอเอฟพี/บีบีซี/ซีเอ็นเอ็น/อัลญะซีเราะห์- ผู้นำสหรัฐฯ ช็อกประชาคมโลก หลังยืนกรานจะไม่เข้าไปแทรกแซงเหตุวุ่นวายในอิหร่าน ระบุเป็น "เรื่องภายใน" ที่ชาวอิหร่านต้องตัดสินด้วยตัวเอง ด้านอัยการชื่อดังของอิหร่านออกโรงขู่ฟ่อ รัฐบาลมีสิทธิ์นำโทษประหารชีวิตมาใช้จัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านผลการเลือกตั้ง ระบุการร่วมชุมนุมแม้เพียงเล็กน้อยก็เข้าข่ายเป็น "กบฏต่อชาติ" และเป็นการ "ประกาศสงครามกับพระผู้เป็นเจ้า"
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกหลังออกมายืนยันเมื่อวันอังคาร (16) ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของเขาจะวางตนเป็นกลาง โดยจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหตุชุมนุมประท้วงค้านผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านครั้งล่าสุด ที่มีผู้เข้าร่วมหลายแสนคนอย่างแน่นอน
โอบามาระบุว่า เขามองไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อันใดที่สหรัฐฯ จะเข้าไปก้าวก่ายกับเรื่องที่เป็น "กิจการภายใน" ของอิหร่าน ซึ่งเขาเห็นว่า มีแต่ชาวอิหร่านเท่านั้นที่สมควรจะเป็นผู้ยุติความขัดแย้งทางการเมืองครั้งนี้ด้วยมือของตัวเอง ไม่ใช่ด้วย " มือของชาวอเมริกัน"
อย่างไรก็ตาม โอบามายอมรับว่าเขารู้สึกกังวลอย่างมากต่อภาพความรุนแรงในอิหร่าน ที่มีการใช้กำลังกับผู้ที่มาชุมนุมอย่างสันติ ซึ่งเขาเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านก็สร้างความกังวลให้กับประชาชนชาวอเมริกันเช่นเดียวกัน พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในอิหร่านเร่งหาทางออกของวิกฤตทางการเมืองครั้งนี้โดยสันติ
ขณะเดียวกัน โมฮัมมาเดรซา ฮาบีบี อัยการสูงสุดของจังหวัดอิสฟาฮาน ทางภาคกลางของอิหร่านออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านทางสำนักข่าวอิหร่าน ฟาร์ส เมื่อวานนี้ (17) โดยระบุว่า ผู้ที่มีส่วนร่วมในการก่อเหตุวุ่นวาย เพื่อคัดค้านชัยชนะในการเลือกตั้งของประธานาธิบดีมะห์มุด อะห์มาดิเนจัด แม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจต้องโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิตแล้ว ภายใต้กฎหมายอิสลามอันเข้มงวดของอิหร่าน
ฮาบีบีซึ่งเป็นอัยการชื่อดังระดับแถวหน้าของอิหร่านระบุว่า พฤติกรรมของผู้ชุมนุมประท้วงเข้าข่ายการกระทำที่บ่อนทำลายความสงบสุขของสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ และเชื่อว่ามีการ "ชักใย" จากภายนอกประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ "ผู้หลงผิดทั้งหลาย" ยุติการก่ออาชญากรรมต่อประเทศหากไม่ต้องการได้รับโทษประหารชีวิต เนื่องจากกฎหมายของอิหร่านถือว่าการกระทำในลักษณะนี้เข้าข่ายเป็น "กบฏต่อชาติ" และเป็นการ "ประกาศสงครามกับพระผู้เป็นเจ้า"
เมื่อวันอังคาร(16) รัฐบาลอิหร่านประกาศสั่งห้ามสื่อต่างชาติทุกสำนัก ออกไปรายงานข่าวการประท้วงนอกสถานที่โดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่กระทรวงวัฒนธรรมอิหร่านแถลงว่านักข่าวต่างชาติทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้รายงานข่าวหรือทำกิจกรรมใดๆภายนอกสถานีของตนทั้งสิ้นโดยขอให้คอยติดตามการรายงานสถานการณ์การประท้วงจากสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของอิหร่าน เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
ด้านสถานีโทรทัศน์ภาคภาษาอังกฤษ "เพรสส์ ทีวี" ของอิหร่านระบุว่า กระทรวงมหาดไทยอิหร่านสั่งการให้สอบสวนเหตุโจมตีกลุ่มนักศึกษา โดยฝีมือของทหารกองหนุนอิสลามและตำรวจ คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นเพียง1วันหลังจากอาลี ลาริจานี ประธานรัฐสภาอิหร่านออกมาประณามการโจมตีหอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยเตหะราน ซึ่งทำให้มีนักศึกษาเสียชีวิต 4คน เป็นชาย 3 คน และหญิงอีก 1 คน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่ากลุ่มผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีมีร์ ฮอสเซน มูซาวี ซึ่งพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีแบบน่ากังขา เตรียมนัดรวมตัวชุมนุมประท้วงอีกครั้งในกรุงเตหะรานเมื่อวานนี้ (17) โดยไม่ฟังคำสั่งห้ามของรัฐบาลและคำเตือนเรื่องโทษประหารชีวิตของอัยการชื่อดังของอิหร่านแต่อย่างใด