ลึกลับยิ่งขึ้น ชี้แอร์ฟรานซ์ตกไม่ใช่เพราะสภาพอากาศ

เอเจนซี - ปริศนาสาเหตุเครื่องบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ระหว่างบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกลึกลับยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อมีการบ่งชี้ว่า อากาศแปรปรวนอาจไม่ใช่สาเหตุ เพราะในเวลาเดียวกันนั้น มีเครื่องบินของสายการบินอื่นอีกอย่างน้อย 12 ลำ ร่วมบินด้วย แต่ก็ไม่ได้ประสบปัญหาใดๆ

บรรดาสายการบินอื่นๆ ยืนยันว่า มีเครื่องบินอย่างน้อย 12 ลำ ได้ร่วมเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกในช่วงที่เครื่องบินแอร์บัสเอ 330 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์บินอยู่เช่นกัน แต่เครื่องบินเหล่านั้นก็สามารถบินตามเส้นทางได้อย่างราบรื่นดี ไม่มีรายงานสภาพอากาศย่ำแย่หรือเกิดปัญหาอื่น ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญการบินบางคน เริ่มพุ่งประเด็นไปที่ปัญหาการขัดข้องทางเทคนิคว่า อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก แต่อาจเป็นไปได้ว่า สภาพอากาศในขณะนั้นก็มีส่วนทำให้ปัญหาทางเทคนิคยิ่งทวีความเลวร้ายมากขึ้น

ข้อมูลใหม่ดังกล่าวทำให้มีความสงสัยมากยิ่งขึ้น หลังจากเครื่องบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ซึ่งเชื่อว่า ตกลงกลางมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ตรงเส้นทางที่เชื่อมระหว่างชายฝั่งของบราซิลและแอฟริกาตะวันตก และอาจคร่าชีวิตผู้คนบนเครื่องทั้งหมด 228 คน

ทั้งนี้ ระบบคอมพิวเตอร์บนเครื่องรายงานพบปัญหาทางเทคนิคหลายอย่างหลังเครื่องขึ้นบินไปได้เพียง 4 ชั่วโมง ทั้งยังรายงานผลทันทีที่เครื่องบินฝ่าลมพายุซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทางตะวันออกของบราซิลไม่กี่ร้อยไมล์ ก่อให้เกิดข้อสงสัยว่า ลมพายุ ความแปรปรวนของอากาศ และแม้กระทั่งฟ้าผ่าที่อาจทำให้ระบบบนเครื่องมีปัญหาจนเครื่องบินร่วงตกในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินเห็นว่า สภาวะอากาศเพียงอย่างเดียวไม่น่าเป็นสาเหตุทำให้เครื่องตกได้ เพราะตามปกติ เครื่องบินมักบินฝ่าลมพายุได้อยู่แล้วโดยใช้ระบบตรวจจับเรดาร์บนเครื่องเป็นตัวนำทาง แต่ถ้าสภาพอากาศรุนแรงจริงๆ กัปตันก็สามารถเบนเครื่องบินออกจากพายุ หรือบังคับให้เครื่องบินอยู่เหนือพายุได้

ทั้งนี้ เครื่องบินที่บินในบริเวณเดียวกับที่เครื่องบินของแอร์ฟรานซ์ตก ได้แก่ เครื่องของสายการบินแอร์ไอบีเรียของสเปน บริติชแอร์เวย์ของอังกฤษ และเที่ยวบินอีก 4 เที่ยวของแอร์ฟรานซ์เอง ซึ่งไม่ได้ประสบปัญหาใดๆ และไปถึงจุดหมายปลายทางตามเวลาที่กำหนดด้วย

รายงานความคืบหน้าอีกชิ้นยังเผยว่า เวลานี้การตรวจสอบของคณะเจ้าหน้าที่ด้านการบินมุ่งประเด็นไปที่อุปกรณ์นอกตัวยานมากขึ้นว่า โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน คาดว่าเครื่องบินมรณะอาจหยุดนิ่งกลางอากาศ เพราะเกิดความผิดพลาดขึ้นที่ระบบชี้วัดความเร็ว

ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินเผยว่า เครื่องบินอาจถูกน้ำแข็งปกคลุมจนทำให้เซ็นเซอร์ตรวจจับความเร็วการบินแปรปรวน และส่งผลต่อการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ให้ตั้งความเร็วเครื่องบินเร็วหรือช้าเกินไป ซึ่งส่งผลเสียหายร้ายแรงอย่างยิ่ง ในขณะที่เครื่องกำลังตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง

ทั้งนี้ คณะผู้ตรวจสอบพบว่า เครื่องบินมรณะลำดังกล่าวได้รับข้อมูลการอ่านค่าความเร็วจากเครื่องมือต่างๆ ไม่สอดคล้องกัน การทำงานผิดพลาดของเครื่องชี้วัดความเร็วการบินอาจทำให้ดูเหมือนว่าความเร็วเครื่องสูงกว่าระดับที่แท้จริง และหากนักบินรู้ปัญหานี้ช้าไป เครื่องอาจหยุดนิ่งอยู่กับที่จนนำไปสู่การเกิดโศกนาฏกรรมได้