เอเอฟพี - เศรษฐกิจของสเปนหดตัวในอัตรารวดเร็วที่สุดในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ขณะที่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนดิ่งลง เนื่องจากอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยของโลก
สำนักงานสถิติแห่งชาติของสเปน(ไอเอ็นอี) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี ลดลง 1.9 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรกของปีนี้ เทียบกับไตรมาก่อน และตกลง 3.0 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสเดียวกันของปี 2008 ทั้งนี้ นับเป็นการหดตัวครั้งที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากไตรมาสสิ้นสุดเดือนธันวาคมลดลง 1.0 เปอร์เซ็นต์ และ 3.0 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2008 ซึ่งนับเป็นการลดลงรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ไอเอ็นอีบันทึกดัชนีนี้มาในปี 1970
ผลลัพธ์ดังกล่าวย่ำแย่กว่ารายงานข้อมูลเบื้องต้นจากเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งระบุว่าการหดตัวในไตรมาสแรกที่ 1.8 เปอรเซ็นต์ เทียบจากไตรมาสก่อน และ 2.9 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว
ไอเอ็นอี ระบุว่า การหดตัวดังกล่าวเป็นเพราะการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนลดต่ำลง 4.1 เปอร์เซ็นต์ จาก 2.3 เปอร์เซ็นต์ของไตรมาสสุดท้ายของปี 2008 ซึ่งเป็นผลกระทบอย่างหนักจากอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งทะยานขึ้นเป็น 17.4 เปอร์ซ็นต์ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มากเป็น 2 เท่าของอัตราเฉลี่ย 8.3 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มสหภาพยุโรปทั้งหมด 27 ชาติ
ด้านอัตราการส่งออกดิ่งลงไป 19 เปอรเซ็นต์ เทียบจาก 7.9 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสก่อน ในทำนองเดียวกันกับความต้องการภายในประเทศ โดยการน้ำเข้าลดลงอย่างกนักเช่นกันที่ 22.3 เปอรเซ็นต์เทียบจาก 13.2 เปอร์เซ็นต์ของไตรมาสก่อน
ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา การขาดดุลการค้าของสเปนหดตัว 61.9 เปอร์เซ็นต์ที่ 3,660 ล้านยุโร ตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรม ขณะที่การลงทุนในการก่อสร้างลดลง 12.4 เปอร์เซ็นต์
ประธานาธิบดี โฆเซ่ หลุยส์ โรดิเกส ซาปาเตโด ชี้ว่า เป็นผลงานที่เลวร้ายน้อยกว่าชาติอื่นในยุโรป ทั้งนี้ รัฐบาลโซเชียลลิสต์ของเขาระบุว่า สเปนได้ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจแล้วและคาดว่าจะฟื้นตัวในไม่ช้านี้