เอเอฟพี – รัฐบาลศรีลังกาประกาศวันนี้ (15) จะปราบปรามกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬให้สิ้นซากภายใน 48 ชั่วโมง ฝ่าฝืนข้อเรียกร้องจากนานาประเทศให้หยุดยิง และเตือนถึงความหายนะต่อเพื่อนมนุษย์ ภายในพื้นที่ยึดครองของกลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าว
สัญญาณของการปราบปรามกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนครั้งสุดท้ายใกล้จะมาถึง เมื่อหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของบันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติได้เร่งเร้าให้รัฐบาลศรีลังกายุติการสังหารผู้คนโดยเร็ว
ด้านคณะกรรมการกาชาดสากล หรือ ไอซีอาร์วี องค์กรกลางเพียงแห่งเดียวที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ความขัดแย้ง เผยว่า เจ้าหน้าที่ของพวกเขาเห็นความหายนะต่อมนุษย์ ที่ไม่สามารถจินตนาการได้
อดีตประเทศอาณานิคมอังกฤษแห่งนี้ ระบุว่า พวกเขาต้องการการสอบสวนคดีอาชญากรสงครามตามที่ถูกกล่าวหา ขณะที่สหรัฐฯ ประกาศระงับเงินช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ 2,000 ล้านดอลลาร์ให้กับศรีลังกาแล้ว
ทั้งนี้ เชื่อว่า ชาวทมิฬหลายหมื่นคนติดอยู่ภายในพื้นที่ป่า ซึ่งกลุ่มกบฏยึดครองอยู่ และได้รับรายงานว่า พงเรือนหลายพันคนเสียชีวิตจากการระดมยิงไม่เลือกของรัฐบาล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม อนุชา พัลพิตา โฆษกรัฐบาลออกมาประกาศว่า สงครามดังกล่าวจะสิ้นสุดภายในเช้าวันอาทิตย์ (17) นี้
“ประธานาธิบดี (มหินทา ราชาปักเส) ให้ความมั่นใจว่า ภายใน 48 ชั่วโมง พลเรือนชาวทมิฬหลายพันคนจะได้รับอิสระจากการยึดครองของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ ดินแดนทั้งหมดจะเป็นอิสระจากการครอบครองของกลุ่มกบฏด้วย” เขากล่าว
สำหรับเจ้าหน้าที่กองทัพ ระบุว่า การต่อสู้กับกลุ่มพยัคฆฺทมิฬอีแลมนั้นจะต้องดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด เพื่อช่วยปลดปล่อยชาวบ้าน ที่ถูกกลุ่มกบฏจับเป็นตัวประกันออกมา
รัฐบาลศรีลังกา ยืนกรานว่า กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬใช้ชาวบ้านเหล่านั้นเป็นเกราะมนุษย์ และพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ และผู้เสียชีวิตทุกรายในดินแดนของกลุ่มกบฏนั้นเป็นความรับผิดชอบของพวกเขาด้วย แม้ว่าหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นจะระบุว่า ทั้งสองฝ่ายมีความผิดฐานเป็นอาชญากรสงคราม