เอเอฟพี - ราคาน้ำมันทะยานขึ้นไปเหนือ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เมื่อวันอังคาร (12) ก่อนปิดตลาดเกือบ 59 ดอลลาร์ จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ขณะที่วอลล์สตรีทปิดผสมผสาน เหตุนักลงทุนชะลอการลงทุนหลังขยับขึ้นต่อเนื่องมาหลายวัน
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ปิดที่ 58.85 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายขึ้นไปถึง 60.08 ดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 57.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“ราคาน้ำมันมีความสัมพันธ์กับค่าดอลลาร์และตลาดหุ้น นอกจากนี้มันยังสัมพันธ์กับการกลั่นด้วย” ฟิล ฟลินน์ จากอลารอนเทรดดิ้งกล่าว
หลังดิ่งลงจากระดับสูงสุดเหนือ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2008 เหลือเพียง 32.40 ดอลลาร์ในเดือนธันวาคม ราคาน้ำมันขยับขึ้นอีกครั้งและรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้วยข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯซึ่งดีกว่าที่คาดหมายไว้จุดประกายความหวังเศรษฐกิจโลกว่าจะฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดเร็วๆ นี้ นั่นหมายถึงอุปสงค์ทางพลังงานก็จะขยับขึ้นตามไปด้วย
คลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1990 และนักวิเคราะห์คาดหมายว่ามันจะขยับขึ้นไปอีกในรายงานประจำสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานที่จะเผยแพร่ในวันพุธ(13)
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร (12) กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้ลดประมาณการอุปสงค์น้ำมันของโลกสำหรับปี 2009 และ 2010 ลงอีกในรายงานประจำเดือน โดยระบุว่าอุปสงค์จะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ แต่จะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2010
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร (12) ปิดผสมผสาน เหตุนักลงทุนชะลอการลงทุนหลังขยับขึ้นต่อเนื่องมาหลายวันและรอดูท่าทีเกี่ยวกับความพยายามเพิ่มทุนรอบใหม่ของธนาคารและบริษัทต่างๆ
ตลาดได้ปัจจัยบวกบางส่วนจากข้อมูลขาดดุลการค้าของสหรัฐฯที่ดีเกินความคาดหมายและคำพูดที่น่าอุ่นใจของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เบน เบอร์นันกี เกี่ยวกับสุขภาพของระบบธนาคาร
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 50.34 จุด (0.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,469.11 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.89 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 908.35 จุด แนสแดก ลดลง 15.32 จุด (0.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,715.92 จุด