เอเจนซี - วอลล์สตรีทเมื่อวันอังคาร (21) ปิดบวกกว่า 100 จุด หลัง ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ บ่งชี้ว่า ธนาคารเกือบทั้งหมดมีทุนสำรองเพียงพอเพื่อป้องกันความเป็นไปได้ในการขาดทุน จุดประกายกระเตื้องขึ้นในหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่ราคาน้ำมันก็ขยับตามหลังอิหร่านเผยโอเปกอาจจำเป็นต้องลดกำลังผลิตอีกครั้ง
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 127.83 จุด (1.63 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,969.56 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 17.69 จุด (2.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 850.08 จุด ขณะที่ แนสแดก เพิ่มขึ้น 35.64 จุด (2.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,643.85 จุด
หุ้นภาคการเงินมีผลงานดีที่สุดบนกระดานของเอสแอนด์พี หลังจาก ไกธ์เนอร์ ออกมากล่าวว่าธนาคารส่วนใหญ่ของสหรัฐฯมีเงินทุนพอเพียงที่จะปล่อยกู้ แต่หนี้เสียอาจทำให้การฟื้นตัวของธนาคารต่างๆ ช้าลง
ด้านราคาน้ำมันกลับไปปิดตลาดในแดนบวกเมื่อวันอังคาร (21) ตามหลังวอลล์สตรืท ขณะที่อีกปัจจัยหนึ่งคืออิหร่าน ชาติสมาชิกของโอเปกบอกว่าทางกลุ่มอาจจำเป็นต้องจำกัดอุปทานเพิ่มเติมอีกครั้งเพื่อลดคลังน้ำมันดิบโลกที่เต็มพิกัดอยู่ในเวลานี้
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ ปิดที่ 46.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ของลอนดอน ลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ 49.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ผู้แทนอิหร่านประจำโอเปก กล่าวว่า ชาติผู้ผลิตน้ำมันอาจตัดสินใจลดกำลังผลิตลงอีกในเดือนพฤษภาคม หากว่าอุปทานยังคงล้นตลาด และแสดงความกังวลว่าชาติผู้บริโภคจะกักตุนน้ำมันสืบเนื่องจากราคาอยู่ในระดับต่ำ
“โอเปกอาจตัดสินใจลดกำลังผลิตอีกในการประชุมครั้งต่อไป หากอุปทานยังคงล้นตลาดเช่นนี้” นายโมฮัมเหม็ด อาลี คาติบี รัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่านบอกกับผู้สื่อข่าว