อิหร่านเรียกทูต ปธ.อียู ประท้วงกรณีวอล์กเอาต์จากที่ประชุม

เอเอฟพี - อุปทูตสาธารณรัฐเช็กประจำเตหะราน เมื่อวันอังคาร (21) ถูกอิหร่านเรียกพบเพื่อประท้วงกรณี “ละเมิดสิทธิ” หลังผู้แทนของอียูลุกออกจากห้องประชุมยูเอ็นระหว่างประธานาธิบดี มะห์มูด อะห์มาดิเนจัด กล่าวปราศรัยโจมตีอิสราเอล

“อุปทูตสาธารณรัฐเช็ก ถูกเรียกตัวโดยสำนักงานสิทธิมนุษยชนกระทรวงการต่างประเทศ และได้รับคำเตือนเพราะว่าอิหร่านมีความกังวลเกี่ยวกับทิศทางการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เติบโตขึ้นในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป” สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ รายงาน

ปัจจุบันสาธารณรัฐเช็ก คือ ประธานหมุนเวียนของสหภาพยุโรป

ไออาร์เอ็นเอ รายงานว่า ความกังวลของอิหร่านรวมไปถึง “การฆ่านักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ตำรวจเข่นฆ่าชาวต่างชาติ และขัดขวางชนกลุ่มน้อยมุสลิมจากการศึกษาในบางประเทศ”

“อิหร่านยังได้ตำหนิทัศนคติเลือกปฏิบัติของรัฐบาลประเทศยุโรปต่อประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนและความไม่สนใจต่อสู้กับการเยียดผิวของพวกเขา” ไออาร์เอ็นเอ รายงาน

ความเคลื่อนไหวของเตหะรานครั้งนี้ มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากคณะผู้แทน 23 คนของสหภาพยุโรปลุกออกจากห้องประชุมที่กรุงเจนีวาหลังประธานาธิบดีอะห์มาดิเนจัด กล่าวสุนทรพจน์ตราหน้าอิสราเอล ว่าเป็นระบอบการปกครองที่อำมหิตและเหยียดผิว ณ ที่ประชุมต่อต้านการเหยียดผิวของสหประชาชาติ

บัน คี มุน เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติได้ ตำหนิสุนทรพจน์ของผู้นำอิหร่าน และกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่จะมีประเทศใดสามารถทำให้ที่ประชุมปั่นป่วนได้เช่นนี้

นอกจากนั้น ยังกล่าวว่ารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งที่อะห์มาดิเนจัด ไม่สนใจคำขอร้องของเขาในช่วงก่อนขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่ไม่ต้องการให้ผู้นำอิหร่านสร้างปัญหาใดๆ ให้กับที่ประชุม

รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ประณามสุนทรพจน์ในครั้งนี้ว่า “ชั่วร้ายและน่ารังเกียจ” ขณะที่สำนักวาติกันกล่าวว่า สุนทรพจน์ของผู้นำอิหร่านเป็นถ้อยแถลงของพวกหัวรุนแรงและไม่อาจจะยอมรับได้

นาวาเนเธม พิลเลย์ ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นชาวแอฟริกาใต้ ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกตกใจ และผิดหวังอย่างยิ่งกับทุกอย่างที่อะห์มาดิเนจัดพูดในที่ประชุม

ขณะที่ ปีเตอร์ กูเดอร์แรห์ม เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า อะห์มาดิเนจัด ไม่สมควรเข้าร่วมเวทีการประชุมเพื่อต่อต้านการเหยียดผิวและเชื้อชาติในครั้งนี้ด้วยซ้ำ เพราะคำพูดของเขาแสดงการเหยียดเชื้อชาติอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตาม แม้การกระทำของผู้นำอิหร่านจะถูกจากชาติมหาอำนาจตะวันตกประณามอย่างรุนแรง แต่รายงานข่าวระบุว่า ยังมีผู้แทนจำนวนหนึ่งจากหลายประเทศชาติอื่นๆ แสดงความชื่นชมโดยปรบมือตอบรับคำพูดของเขาเช่นกัน

ทั้งนี้ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันอังคาร (21) ว่า จะยังคงพยายามทาบทามผ่านทางการทูตกับอิหร่าน แม้จะมีคำด่าอิสราเอลล่าสุดออกมาจากอะห์มาดิเนจัด

โอบามา กล่าวหลังหารือกับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ว่า โวหารรุนแรงของประธานาธิบดีอิหร่าน ณ ที่ประชุมต่อต้านการเหยียดผิวของสหประชาชาติ คือ สิ่งที่น่าตกใจและไม่ช่วยอะไรเลย