เอเจนซี - สมาชิกกลุ่มโจรสลัดโซมาเลีย ซึ่งจับกัปตันเรือสินค้าชาวอเมริกันเป็นตัวประกัน ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมกับรอยเตอร์วานนี้ (10) โดยประกาศว่า ไม่เคยกลัวสหรัฐฯ และพร้อมจะสู้ตายเพื่อป้องกันตนเองหากถูกกองทัพเรือสหรัฐฯโจมตี
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ (8) กลุ่มโจรสลัดชาวโซมาเลีย 4 คนได้เข้าปล้นและยึดเรือบรรทุกสินค้า "เมิร์สก์ แอละบามา" ที่มีระวางขับน้ำ 17,000 ตัน ของบริษัทเมิร์สก์แห่งเดนมาร์กซึ่งกำลังลอยลำอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย บริเวณนอกชายฝั่งโซมาเลียราว 300 ไมล์ โดยเรือดังกล่าวอยู่ในระหว่างการนำเสบียงอาหารเข้าไปช่วยเหลือชาวโซมาเลียและยูกันดา โดยใช้เส้นทางจากกรุงจิบูตี ประเทศจิบูตีไปยังเมืองมอมบาซาในประเทศเคนยา
แม้ลูกเรือชาวอเมริกัน 20 คนจะสามารถต่อสู้จนยึดเรือกลับคืนมาได้ แต่ กลุ่มโจรสลัดก็ได้จับตัว กัปตันเรือ ริชาร์ด ฟิลลิปส์ ลงเรือชูชีพไป
แอนดรูว์ เอ็มวันกูรา ผู้ประสานงานของโครงการช่วยเหลือผู้เดินเรือทะเลในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก กล่าวว่า เขาคิดว่ากลุ่มโจรสลัดน่าจะยอมปล่อยตัวประกันในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้เพื่อแลกกับเงิน และการได้เดินทางกลับไปยังโซมาเลียอย่างปลอดภัย เนื่องจากเรือชูชีพที่กลุ่มโจรสลัดใช้จับตัวประกันน้ำมันหมดแล้ว ขณะที่เรือของโจรสลัดโซมาเลียอีก 2 ลำก็ไม่กล้าเข้ามาช่วย เนื่องจากมีเรือรบต่างชาติหลายลำ รวมทั้งเรือพิฆาต "เบนบริดจ์" ของสหรัฐฯ ลอยลำอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
เหตุการณ์ปล้นยึดเรือคราวนี้นับเป็นครั้งล่าสุด ของการกระทำอันอุกอาจเหิมเกริมของโจรสลัดในบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งโซมาเลีย หลังจากโจรสลัดโซมาเลียเพิ่งจะปล้นเรือสินค้า 5 ลำเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์มองว่าปัญหาโจรสลัดโซมาเลีย ได้กลายมาเป็นประเด็นปัญหาที่สำคัญทางด้านนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีบารัค โอบามา โดยถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลสหรัฐฯต้องหันกลับมาสนใจปัญหาโซมาเลียอีกครั้ง นับตั้งแต่กรณี เฮลิคอปเตอร์ "แบล็คฮอว์ก" ของสหรัฐฯถูกยิงตกในโซมาเลียเมื่อปี1993 และทหารสหรัฐฯ 18 นายต้องสังเวยชีวิตจากการสู้รบกับกับกองโจรในโซมาเลียเป็นเวลานานถึง 17 ชั่วโมง อันเนื่องมาจากภารกิจแทรกแซงโซมาเลียที่สหรัฐฯทำร่วมกับองค์การสหประชาชาติในครั้งนั้น
ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาระบุว่า ถึงแม้ภัยคุกคามจากโจรสลัดจะเป็นปัญหาเก่าแก่ที่อยู่คู่กับโลกมานานนับศตวรรษ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังทำงานอย่างเต็มที่เพื่อหามาตรการตอบโต้ในยุคศตวรรษที่ 21 ที่มีความเหมาะสม
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า เรือพิฆาต "เบนบริดจ์" ได้ร้องขอให้สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ และหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นๆ ช่วยเจรจากับกลุ่มโจรสลัด ขณะที่แหล่งข่าวในกองทัพสหรัฐฯเปิดเผยว่า มีการส่งกำลังทหารเดินทางเข้าไปสมทบเพิ่มเติมแล้ว และทางกองทัพจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อช่วยกัปตันฟิลลิปส์ให้ได้ รวมทั้ง อาจมีการส่งเรือฟริเกต "ฮาลีเบอร์ตัน" ซึ่งติดขีปนาวุธนำวิถีและสามารถบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ได้ 2 ลำเข้าไปในพื้นที่ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ปัญหาการปล้นยึดเรือโดยกลุ่มโจรสลัดโซมาเลียทำให้การเดินเรือบริเวณอ่าวเอเดนและมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่มีการจราจรคับคั่ง เกิดปัญหาอย่างมาก รวมทั้งยังทำให้ค่าประกันภัยเพิ่มสูงขึ้น จนบริษัทขนส่งสินค้าหลายแห่งต้องตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือสินค้าโดยยอมเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินเรืออ้อมตอนใต้ของทวีปแอฟริกา ซึ่งมีระยะทางไกลกว่ามาก เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดักปล้นในเส้นทางออกจากคลองสุเอซ ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางขนส่งลำเลียงน้ำมันที่สำคัญที่สุดในโลก