xs
xsm
sm
md
lg

โอบามาสุนทรพจน์ในตุรกียันไม่ได้เป็นปรปักษ์กับโลกมุสลิม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวตุรกีติดตามคำกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามาทางโทรทัศน์
เอเอฟพี - บารัค โอบามา เดินทางเยือนประเทศมุสลิมชาติแรกในฐานะประธานาธิบดี ประกาศเมื่อวันจันทร์(6) สหรัฐฯ "ไม่และจะไม่ทำสงครามกับอิสลามเป็นอันขาด"

ในการเรียกร้องความเป็นหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งกับโลกมุสลิมระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาตุรกี โอบามา บอกว่าตุรกีมีความสำคัญต่อพันธมิตรสหรัฐฯในหลายพื้นที่ รวมไปถึงการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย ทั้งนี้เขาใช้เวลาการกล่าวปราศรัยเกือบทั้งหมดเรียกร้องพันธนาการระหว่างอเมริกันและมุสลิม รวมถึงพรรณากลุ่มก่อการร้ายอย่างเช่นอัลกออิดะห์ว่าพวกหัวรุนแรงที่ไม่ใช่ตัวแทนของชาวมุสลิมส่วนใหญ่

ประธานาธิบดีรายนี้ยังกล่าวว่า สหรัฐกับตุรกีจะเป็นแบบอย่างของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่คนส่วนใหญ่นับถือคริสต์ กับประเทศที่คนส่วนใหญ่เป็นมุสลิม

โอบามา กล่าวว่า "สหรัฐฯไม่และจะไม่ทำสงครามกับอิสลาม" แต่ยอมรับว่าความเป็นหุ้นส่วนของอเมริกากับโลกมุสลิมนั้นอยู่ในขั้นวิกฤต

ประธานาธิบดีสหรัฐฯพยายามซ่อมแซมกับความสัมพันธ์กับโลกมุสลิมที่รู้สึกว่าพวกเขาถูกกล่าวโทษโดยอเมริกาสำหรับเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001

ยกตัวอย่าง ณ การแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมตรีตุรกีอัลดุลเลาะห์ กุล โอบามาพยายามระมัดระวังในการกล่าวถึงประเด็นข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของตุรกีต่อชาวอาร์เมเนียระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และได้เรียกร้องให้เติร์กและอาร์เมเนีย ผ่านพ้นอดีตด้วยการหันมาใช้แนวทางที่ซื่อสัตย์ โปร่งใส่และเปิดอก รวมถึงบอกว่าาหรัฐฯสนับสนุนอย่างเข้มแข็งต่อความสัมพันธ์ที่เป็นปกติอย่างสมบูรณ์ระหว่างสองชาติ

"ความสัมพันธ์ของอเมริกากับโลกมุสลิมไม่สามารถและจะไม่อยู่บนพื้นฐานของการต่อต้านอัลกออิดะห์" เขากล่าว "เราหวังมีข้อผูกมัดที่กว้างขวางบนพื้นฐานของผลประโยชน์และความเคารพซึ่งกันและกัน"

โอบามา สามารถเรียกเสียบปรบมือจากคำแถลงของเขาด้วยการระบุว่าสหรัฐฯ สนับสนุนตุรกีเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป

ก่อนหน้านี้ โอบามา ได้ยืนยันจุดยืนของเขาจากเมื่อปี 2008 ที่ระบุว่าออตโตมันเติร์กได้สังหารชาวอาร์เมเนียจำนวนมากในศตรรษที่ 20 แต่เขาก็หลีกเลี่ยงไม่ใช้คำว่า "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ซ้ำอีก

ระหว่างหาเสียงเมื่อปี 2008 โอบามา กล่าวว่า "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอาร์เมเนียไมใช่ข้อกล่าวหา" แต่ค้อนข้างจะ "มีเอกสารความจริงสนับสนุนหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างท่วมท้น" ขณะที่คนตุรกีจำนวนมากต่างรับไม่ได้กับคำพูดนี้

ทั้งนี้ในการหารือกับกุลและเรเจป ไตยิป เอร์โดอาน นายกรัฐมนตรีตุรกี โอบามา หวังขายยุทธศาสตร์ของเขาในอัฟกานิสถานและปากีสถาน นอกจากนี้เขายังหวังได้รับเสียงสนับสนุนนโยบายเพิ่มกำลังทหารและความพยายามด้านพลเรือนเพื่อช่วยให้ประชาชนในสองประเทศนี้มีชีวิตที่ดีขึ้น

โอบามา ยอมรับว่ามีความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและตุรกี แต่เชื่อว่าตอนนี้หลายสิ่งกลับสู่ทิศทางที่ถูกต้องแล้ว เพราะว่าสองประเทศมีผลประโยชน์ต่างๆร่วมกัน

การเยือนตุรกีของโอบามา ถือเป็นการสิ้นสุดกำหนดเยือนต่างประเทศของเขา หลังไปเข้าร่วมประชุมจี 20 ที่กรุงลอนดอน ร่วมฉลองครบรอบ 60 ปีนาโตในสตาร์บูร์ก ฝรั่งเศสและเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไปสาธารณรัฐเช็ก ร่วมประชุมกับบรรดาผู้นำสหภาพยุโรปในกรุงปราก
กำลังโหลดความคิดเห็น