เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี แห่งอิตาลี อ้างเหตุที่ต้องเสียมารยาทหันหลังให้กับนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี และไม่ได้ร่วมถ่ายรูปหมู่ผู้นำชาติพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) 28 ประเทศ เมื่อวันเสาร์ (4) ว่า เพราะกำลังติดพันคุยโทรศัพท์ อยู่กับ เรเซป เทยิป เออร์โดแกน นายกรัฐมนตรีของ ตุรกี เพื่อขอให้ตุรกีหยุดคัดค้านการแต่งตั้ง แอนเดอร์ส ฟอกห์ ราสมุสเซน ผู้นำของเดนมาร์ก ขึ้นเป็นเลขาธิการคนใหม่ขององค์การนาโต
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันสุดท้ายของการประชุมสุดยอดนาโต ในระหว่างที่ผู้นำทั้งหมดของนาโตกำลังเดินทางไปถ่ายรูปหมู่ร่วมกันที่สะพานข้ามแม่น้ำไรน์ อันเป็นแนวแบ่งเขตของประเทศเจ้าภาพร่วมสองประเทศ คือ เยอรมนี และ ฝรั่งเศส
โดยทันทีที่ แบร์ลุสโคนี เดินทางไปถึงบริเวณสะพานฝั่งที่เป็นของเยอรมนี เขาก็ก้าวลงจากรถลีมูซีน พร้อมกับคุยโทรศัพท์มือถือไปด้วย และยังหันหลังให้กับแมร์เคิลแทนที่จะเดินเข้าไปทักทายเธอ ทำให้แมร์เคิลซึ่งถูกทิ้งยืนเพียงลำพังบนพรมสีแดงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ แล้วเดินไปทักทายผู้นำอีกห้าหกคนที่เดินทางมากับขบวนรถยนต์ในเวลาไล่เลี่ยกัน
เมื่อผู้นำนาโตมากันครบ แมร์เคิล จึงได้แต่ทิ้งแบร์ลุสโคนีให้คุยโทรศัพท์ต่อไป แล้วเธอก็เดินไปสมทบกับเหล่าผู้นำที่ยืนรออยู่
ต่อจากนั้น พวกผู้นำซึ่งรวมทั้งประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ก็ได้ข้ามสะพานไปยังฝั่งของฝรั่งเศส โดยประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี ได้มารอต้อนรับอยู่กลางทาง จากนั้นทั้งหมดก็ถ่ายรูปหมู่ร่วมกันโดยไม่มีแบร์ลุสโคนี ทั้งๆ ที่การถ่ายรูปหมู่ครั้งนี้นับเป็นสัญลักษณ์สำคัญในวาระที่การก่อตั้งพันธมิตรด้านการทหารกลุ่มนี้ดำเนินมาครบ 60 ปี
อย่างไรก็ตาม แบร์ลุสโคนี ปฏิเสธว่า เขาไม่ได้เจตนาทำให้เจ้าภาพโกรธ และว่า “แมร์เคิลรู้ดีว่าผมคุยโทรศัพท์อยู่กับเออร์โดแกน ระหว่างที่นั่งมาในรถ และที่ผมเดินหลบไปข้างทาง ก็เพื่อจะโน้มน้าวใจเขาให้ได้”
ทั้งนี้ การเสนอชื่อราสมุสเซน เป็นเลขาธิการใหญ่คนใหม่ของนาโต ถูกตุรกีคัดค้าน เนื่องจากตุรกียังไม่ให้อภัยที่ผู้นำของเดนมาร์กกล่าวปกป้องสิทธิของหนังสือพิมพ์เดนมาร์กฉบับหนึ่งที่ได้พิมพ์ภาพการ์ตูนล้อศาสดามูฮัมหมัดของศาสนาอิสลาม เมื่อปี 2005 รวมทั้งการที่เดนมาร์กปฏิเสธคำร้องของตุรกีให้ปิดสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งของชาวเคิร์ด ทว่าในท้ายที่สุดตุรกียอมยกเลิกการคัดค้าน
แบร์ลุสโคนี บอกว่า หลังจากที่เขาคุยกับเออร์โดแกนเสร็จแล้ว เขายังได้เจรจาในรายละเอียดกับประธานาธิบดี อับดุลเลาะห์ กุล แห่งตุรกีด้วย แบร์ลุสโคนี บอกอีกว่า ฝ่ายตุรกีต้องการ “คำรับรอง” ซึ่งเขาก็ได้ยืนยันไป
ส่วน ราสมุสเซน ได้ให้คำมั่นเมื่อวันเสาร์ (4) ว่า จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนาโตกับโลกมุสลิมให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะขณะนี้พันธมิตรของนาโต้มีปฏิบัติการอยู่ในอัฟกานิสถาน
แบร์ลุสโคนี เป็นมหาเศรษฐีอันดับสองของอิตาลี อีกทั้งเป็นผู้นำคนหนึ่งในวงการสื่อมวลชน และเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน ด้วย ก่อนหน้านี้ เขาเคยแสดงอาการเสียมารยาทมาแล้วหลายครั้งด้วยกัน โดยในการไปร่วมประชุม จี20 และเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่สองของอังกฤษ เมื่อคืนวันพุธ (1) เขาได้ตะโกนเสียงดังระหว่างการถ่ายรูปหมู่ของบรรดาผู้นำกับสมเด็จพระราชินี จนดูเหมือนว่า ควีนอลิซาเบธ ไม่พอพระทัย และมีการเผยแพร่คลิปภาพเหตุการณ์นี้ไปทั่วโลก
ส่วน ราสมุสเซน ก็เคยถูก แบร์ลุสโคนี หยอกล้อว่า เป็น “นายกรัฐมนตรีที่หล่อที่สุดในยุโรป” และ แบร์ลุสโคนี อาจ “แนะนำราสมุสเซนให้รู้จักกับภรรยาของเขา”
แม้แต่ โอบามา ก็เคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้เช่นกัน โดยแบร์ลุสโคนีเคยกล่าวชมโอบามาหลังจากที่เพิ่งชนะเลือกตั้งหมาดๆ ว่า เป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ ที่ “หนุ่มแน่น หล่อเหลา และผิวสีแทนมาก” แต่ต่อมาเขาต้องชี้แจงว่าใช้คำพูดดังกล่าวด้วยความรู้สึกชื่นชม